นายอนุพนธ์ ศรีอาจ ผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายวิจัย บล.บีฟิท กล่าวว่า แนวโน้มตลาดหุ้นไทยเช้านี้คาดว่าจะปรับตัวลงตามตลาดต่างประเทศ ทั้งดาวโจนส์ที่ปรับตัวลงกว่า 2% และตลาดหุ้นอื่นในแถบภูมิภาคเอเชียต่างก็ปรับตัวลงตาม ทั้งนี้ช่วงนี้ตลาดคงจะยังซบเซา จากวอลุ่มเทรดที่เข้ามาน้อย เนื่องจากยังมีปัจจัยลบกดดันอยู่ และยังไม่มีปัจจัยบวกใหม่เข้ามากระตุ้นตลาดฯ
ส่วนประเด็นเรื่องที่แบงก์ชาติปรับลดตัวเลขจีดีพีมองว่าไม่น่าจะมีผลต่อตลาดฯ และไม่น่าตกใจ เนื่องจากตลาดฯน่าจะคาดการณ์ไว้อยู่แล้ว ที่จะต้องรับผลจากเงินเฟ้อที่สูง
ด้านประเด็นทางการเมืองก็เป็นปัจจัยลบที่มากดดัน และขณะนี้เรื่องใกล้สุดที่จะต้องติดตามเป็นเรื่องของการปรับครม. พร้อมให้แนวรับไว้ที่ 678-680 จุด แนวต้าน 690 จุด
ประเด็นของการพิจารณาการลงทุน :
- ตลาดหุ้นนิวยอร์คเมื่อวานนี้(28 ก.ค.) ดัชนีดาวโจนส์ ปิดที่ 11,131.08 จุด ลดลง 239.61 จุด(-2.11%) ดัชนีเอสแอนด์พี 500 ปิดที่ 1,234.37 จุด ลดลง 23.39 จุด(-1.86%) และดัชนีแนสแด็ก ปิดที่ 2,264.22 จุด ลดลง 46.31 จุด (-2.00%)
- นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิ 330.57 ล้านบาท เมื่อวานนี้
- ราคาน้ำมันดิบส่งมอบเดือน ก.ย.ในตลาดไนเม็กซ์ปิดทำการวานนี้ที่ 124.73 ดอลลาร์/บาร์เรล เพิ่มขึ้น 1.47 ดอลลาร์หรือ 1.19%
- วันนี้ศาลรัฐธรรมนูญ นัดไต่สวนข้อเท็จจริงระหว่างนายวิรุฬ เตชะไพบูลย์ รมช.กระทรวงพาณิชย์ และนายทะเบียนหุ้นส่วน บ.กรุงเทพมหานคร สังกัดกรมพัฒนาธุรกิจการค้า สืบเนื่องจากกรณีนายวิรุฬไม่แจ้งการถือหุ้นเกิน 5% ต่อ ป.ป.ช.ใน บ.ทรัพย์วัฒนา จำกัด จนนำไปสู่การวินิจฉัยสิ้นสุดความเป็น รมต.
- แบงก์ชาติ ลดเป้าเศรษฐกิจ เหลือ 4.8-5.8% เหตุการบริโภคและการลงทุนปรับลดลง ส่วนเงินเฟ้อพื้นฐานมีโอกาสเกินเป้าหมาย 3.5% ทั้งปีนี้และปีหน้า คาดปีนี้ขยายตัว 2.8-3.8% ห่วงปัจจัยการเมืองอาจจะรุนแรงมากกว่าในปัจจุบัน ส่วนข่าวดี ราคาน้ำมันมีทิศทางปรับลดลง
- ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย คาดว่า บริษัทจดทะเบียนใหม่ในปีนี้น่าจะมีจำนวนประมาณ 30 ราย จากเดิมที่คาดไว้ที่ 37 ราย หลังมีการขยายเวลาสิทธิประโยชน์ทางภาษี และการที่ภาวะตลาดโดยรวมไม่เอื้อ
- สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย เผยเดือน มิ.ย.51 มียอดส่งออกรถยนต์ 64,990 คัน เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อน 16.88% คิดเป็นมูลค่า 29,972.72 ล้านบาท เพิ่มขึ้น22.73%
- อัยการสูงสุดมีมติไม่รับแก้ต่างให้ 3 รัฐมนตรีจำเลยคดีหวยบนดิน เหตุ คตส.ใช้อำนาจฟ้องแทนรัฐ ขณะที่ "สุรพงษ์-อุไรวรรณ-อนุรักษ์" ประสานเสียงยันไม่ยุติปฏิบัติหน้าที่ นัดถกส่งศาล รธน.ตีความต่อ “บรรหาร" เตรียมชง ครม.ส่งกฤษฎีกาตีความ แทงกั๊กเปลี่ยนตัว รมต.อ้างรอดูสถานการณ์ ด้านฝ่ายค้านจี้นายกฯ ปรับ รมต.หวยออก
- รมว.คลัง เผยจะไม่ลดอัตราภาษีมูลค่าเพิ่มลงเหลือ 3% ตามที่กระทรวงพาณิชย์เสนอแน่ เพราะถือเป็นรายได้หลักของรัฐบาล ถ้าลดจะกระทบกับงบประมาณรายจ่ายประจำปีของรัฐบาลได้ และที่ผ่านมารัฐบาลได้คงภาษีแวตไว้ที่ 7% จนถึงปี 2552
- ก.ล.ต.ระบุ พ.ร.บ.หลักทรัพย์ฉบับใหม่เข้มงวดมากขึ้น บีบผู้บริหาร บจ.ต้องรายงานส่วนได้ส่วนเสีย และรายชื่อบุคคลที่เกี่ยวข้อง บรรดาเครือญาติ เมินเสียงท้วงติงที่อ้างเป็นภาระมากเกินไป เหตุต้องการให้ผู้บริหารปฏิบัติหน้าที่อย่างระมัดระวัง พร้อมเล็งเพิ่มหลักเกณฑ์รายงานการซื้อ-ขายสินทรัพย์ ต้องผ่านการอนุมัติผู้ถือหุ้น จากเดิมเปิดทางให้ผู้บริหาร บจ.ทำได้เอง
- ทริสประเมินอุตสาหกรรมก่อสร้างไทยได้รับผลกระทบจากต้นทุนที่เพิ่มขึ้น จากราคาเหล็ก-น้ำมันพุ่ง และอัตราดอกเบี้ยขาขึ้น ผสมโรง โครงการก่อสร้างขนาดใหญ่ชะลอผลจากการเมืองไม่แน่นอน หวั่นกระทบอัตรากำไรขั้นต้น อาจส่งผลต่อการปรับลดอันดับเครดิตบริษัทก่อสร้างในอนาคต
- ธปท.ยืนยันจะไม่ใช้นโยบายอัตราแลกเปลี่ยนโดยการทำให้เงินบาทแข็งค่า เพื่อให้ราคาพลังงานถูกลงแน่นอน แม้ปัจจุบันกภาวะเงินเฟ้อสูงขึ้นมาต่อเนื่องเพราะราคาน้ำมันสูงขึ้นมาตลอด
- กระทรวงพลังงานเร่งพิจารณาการบริหารกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง หลังจากมีรายจ่ายเพิ่มขึ้นในการอุดหนุนราคาน้ำมันแก๊สโซฮอล์และไบโอดีเซล โดยยืนยันหลักการเดิมคือ ไม่ทำให้ฐานะกองทุนน้ำมันติดลบ ส่วนจะเก็บเงินไบโอดีเซลหรือแก๊สโซฮอล์เพิ่มหรือไม่ต้องขอเวลาพิจารณาและปรับโครงสร้างราคาก๊าซหุงต้มก่อน
--อินโฟเควสท์ โดย พรเพ็ญ ดวงเฉลิมวงศ์/รัชดา โทร.0-2253-5050 ต่อ 317 อีเมล์: rachada@infoquest.co.th--