นายบุญทักษ์ หวังเจริญ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่คนใหม่ ธนาคารทหารไทย(TMB) ประกาศปรับกลยุทธ์มุ่งเน้นลูกค้าเป็นศูนย์กลางและจัดกลุ่มลูกค้าให้ชัดเจน เพื่อให้บริการทางด้านสินเชื่อและเงินฝากได้ง่ายขึ้น ตั้งเป้าแผนงานระยะสั้นขยายเงินฝากและสินเชื่อ พร้อมเดินหน้าลด NPL ขณะที่ยกร่างแผนงานระยะยาว 3 ปีคาดแล้วเสร็จภายในปีนี้
ทั้งนี้ ในระยะสั้น 5 เดือนที่เหลือของปี 51 ธนาคารมีภาระกิจเร่งด่วน ได้แก่ เร่งปล่อยสินเชื่อคุณภาพสุทธิเพิ่มอีก 2 หมื่นล้านบาท โดยจะพัฒนาธุรกิจรายใหญ่และสร้างทีมขายตรงพิเศษในสายงานธุรกิจรายย่อย และขยายเงินฝากอีก 2.5 หมื่นล้านบาท รวมทั้งในครึ่งปีหลังจะขาย NPL ออกไป 2 หมื่นล้านบาทและขาย NPA 1 หมื่นล้านบาท ซึ่งจะทำให้สินเชื่อด้อยคุณภาพ NPL สิ้นปีนี้ลดเหลือต่ำกว่า 10% ทำให้ไม่ต้องกังวลเรื่อง NPL และมุ่งหน้าพัฒนาธุรกิจต่อไป
TMB มีนโยบายที่จะปรับลดสัดส่วนสินเชื่อด้อยคุณภาพต่อเงินให้สินเชื่อ (NPL Gross)ลงให้เหลือไม่เกิน 10% ภายในสิ้นปีนี้ จากปัจจุบันที่อยู่ในระดับ 15% โดยในช่วงครึ่งปีหลังธนาคารจะเดินหน้าจำหน่าย NPL ราว 2 หมื่นล้านบาท
สำหรับการปล่อยสินเชื่อในช่วงครึ่งปีหลัง คาดว่าจะปล่อยสินเชื่อได้ราว 2 หมื่นล้านบาท ซึ่งถือว่าเป็นภาวะที่ดีกว่าครึ่งปีแรก เนื่องจากสินเชื่อสุทธิติดลบ 2.7 หมื่นล้านบาท ปีนี้สินเชื่อโดยรวมของธนาคารจะปรับตัวลงแต่สินทรัพย์ไม่ลดลงเพราะมีเงินฝากเข้ามา
นายบุญทักษ์ กล่าวว่า ธนาคารจะขยายเครือข่ายการให้บริการ ได้แก่ การเปิดสาขาใหม่ 40 สาขา จากปัจจุบัน 473 สาขา ติดตั้งตู้ ATM อีก 200 แห่ง ทำให้มากกว่า 2 พันตู้ รวมทั้งมีการจัดกลุ่มลูกค้าใหม่เป็น 3 กลุ่มหลัก ได้แก่ กลุ่มลูกค้าองค์กร ลูกค้าเอสเอ็มอี และ ลูกค้ารายย่อย
รวมถึงมีการจัดตั้งศูนย์บริการลูกค้าธนบดี เพื่อให้บริหารจัดการสินทรัพย์และความมั่งคั่งของลูกค้า โดยจะเปิดศูนย์ธนบดีที่สำนักงานใหญ่ และ สีลม ในปีนี้ ขณะที่การให้บริการต่างประเทศ เบื้องต้นจะใช้เครือข่ายของ ไอเอ็นจี กรุ๊ปที่มีทั่วโลก และช่วงแรกจะมุ่งเน้นไปยังจีน อินเดีย เกาหลี นอกจากนี้ มีแผนนำบลจ.ทหารไทย และบลจ.ไอเอ็นจี (ประเทศไทย) ควบรวมกิจการกันในเร็วๆ นี้
"ในเวลา 5 เดือนนี้เราจะปรับฐานให้แข็งแกร่งและจะเริ่มให้บริการกับลูกค้าให้ดียิ่งขึ้นเพื่อสร้างความแตกต่างการให้บริการและสร้างความเป็นผู้นำตลาด ในระยะยาว 3-5 ปีข้างหน้ามีแผนที่จะขึ้นเป็นธนาคารชั้นนำที่ให้บริการมาตรฐานระดับโลก คิดว่าแผนระยะยาวจะเสร็จในไตรมาส 3 ปี นี้" นายบุญทักษ์ กล่าว
แผนแก้ไขปัญหาขาดทุนสะสมที่มีกว่าแสนล้านบาทนั้น ขณะนี้ธนาคารมีแผนงานแล้ว แต่ยังไม่รีบร้อนที่จะดำเนินการ โดยจะให้ความสำคัญกับการขยายฐานลูกค้าก่อน
นายบุญทักษ์ กล่าวถึงการล้างขาดทุนสะสมว่า ธนาคารจะทำในแวลาที่เหมาะสมไม่จำเป็นต้องรีบร้อนเพราะช่วงนี้หัวใจสำคัญอยู่ที่ลูกค้าที่จะสร้างความแตกต่างของการบริการของธนาคารทหารไทย เชื่อว่าระยะเวลาอันใกล้จะสามารถล้างขาดทุนสะสมได้ ดังนั้น ในปีนี้จึงยังไม่สามารถจ่ายเงินปันผลให้กับผู้ถือหุ้นได้
ส่วนแผนที่จะขึ้นเป็นธนาคารชั้นนำ ขณะนี้ยังบอกไม่ได้ว่าจะเพิ่มส่วนแบ่งตลาดเป็นเท่าไหร่ แต่ปัจจุบัน 4 แบงใหญ่มีสัดส่วนตลาดรวม 70% ดังนั้นหากจะขึ้นเป็นธนาคารชั้นนำธนาคารทหารไทยจะต้องมีส่วนแบ่งตลาดประมาณ 15-20% ปัจจุบันธนาคารอยู่อันดับที่ 6
สำหรับการตั้งสำรองสินเชื่อปีนี้มีการตั้งเล็กน้อยตามเกณฑ์ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) แต่ขณะนี้ไม่มีการเปลี่ยนแปลงในทางลบ
--อินโฟเควสท์ โดย เสาวลักษณ์ อวยพร/ศศิธร โทร.0-2253-5050 ต่อ 345 อีเมล์: sasithorn@infoquest.co.th--