โบรกฯประเมินกลุ่มโรงไฟฟ้าเจรจาขอขึ้นค่าไฟไม่น่ามีผลกระทบต่อราคาหุ้น

          เช้านี้ หนังสือพิมพ์ ระบุว่า EGCO-RATCH ปรับแผนลงทุนโรงไฟฟ้าใหม่ เร่งเจรจาสัญญาซื้อขายไฟฟ้ากับกฟผ.ใหม่ เพื่อขอปรับราคาเพิ่ม หลังต้นทุนค่าก่อสร้างพุ่ง 25-30%
          นายกิติชาญ ศิริสุขอาชา ผู้อำนวยการฝ่ายหลักทรัพย์ บล.กิมเอ็ง(ประเทศไทย)หรือ KIMENG ประเมินว่า เรื่องนี้ไม่น่าจะมีผลกระทบต่อราคาหุ้นในกลุ่มโรงไฟฟ้า อย่างหุ้น EGCO และ RATCH ได้ แม้ว่าจะมีการเร่งเจรจาสัญญาซื้อขายไฟฟ้าใหม่ตามต้นทุนที่เพิ่มขึ้น มองว่าในที่สุดแล้วทางกฟผ.ก็น่าจะปรับราคาเพิ่มให้ได้แต่คงจะไม่เกินต้นทุนที่เพิ่ม 20-30% จากที่เคยตกลงกันไว้ 
          "ต้นทุนที่เพิ่มขึ้นจะมีผลต่อการก่อสร้างโรงไฟฟ้าใหม่เท่านั้น โรงไฟฟ้าเดิมไม่เกี่ยว ซึ่งต้นทุนพวกเหล็กและอะไรพวกนี้มันขึ้นมา 10-20% ซึ่งพวกนี้ก็เป็นต้นทุนหลักในการก่อสร้าง เพราะฉะนั้นก็คือเดิมที่เคยกำหนดไว้ก่อนจะก่อสร้างในตอนเซ็น MOU มัน base on ราคา ณ วันนั้น แล้วพอราคามันเปลี่ยนมา ก็คือพอเขาทำค่าไฟแล้วเขาไม่ได้ return ตามที่เขากำหนดไว้ เขาก็เลยจะขอเจรจาปรับในเรื่องของค่าไฟฟ้า ก็คือขอเจรจาในเรื่อง MOU อีกทีหนึ่ง"นายกิติชาญ กล่าว
          ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ KIMENG กล่าวว่า มีกฎอยู่ข้อหนึ่งคือเป็นนโยบายรับซื้อไฟฟ้าจากประเทศไทยที่ว่า จะไม่รับซื้อไฟฟ้าจากต่างประเทศในราคาที่แพงกว่าราคาที่ผลิตเองในประเทศ เพราะฉะนั้นถ้าเขาผลิตเองแล้วแพงกว่ามันก็จะตอบคำถามต่อประชาชนไม่ได้ว่าทำไมจะต้องไปซื้อไฟแพงที่ประเทศลาว คือขึ้นราคา
          อย่างโรงไฟฟ้าหงสา จะมีราคาไฟอยู่ที่ 2.05 บาท/หน่วย แต่การประมูลครั้งล่าสุดที่ประมูลในบ้านเรากันมาอยู่ประมาณ 2.1-2.6 บาท/หน่วย(ประมูลไฟฟ้าเมื่อปลายปีที่แล้ว(2550)) ถ้าดูจากวันนั้นถึงวันนี้ผ่านไป 6 เดือนราคาเหล็กก็ขึ้นไปอีก แปลว่าถ้าประมูลใหม่ในวันนี้ราคาก็อาจจะสูงกว่า 2.6 บาท/หน่วยก็ได้ ดังนั้นถ้าเอา 2.6 บาทเป็นหน่วยวัดขั้นต่ำ เขาก็อาจจะปรับขึ้นได้จากที่ตกลงกันไว้ที่ 2.05 บาท แต่คงจะไม่เกิน 2.6 บาท/หน่วย ถ้าคิดอย่างนี้ก็จะปรับขึ้นได้ไม่เกิน  20-30% เพราะว่าปรับมาเท่ากับในประเทศ เรื่องอะไรจะต้องไปซื้อนอกประเทศ ดังนั้นจึงคิดว่าถ้าปรับขึ้นก็ไม่น่าจะเกินต้นทุนเพิ่มขึ้น
          อย่างไรก็ดี หุ้น EGCO และ RATCH ยังคงแนะแค่"ถือ"เพราะตอนนี้ไม่ได้มี story อะไรที่จะสนับสนุนให้ราคาหุ้นขึ้นไป อีกทั้งที่ผ่านมาราคาหุ้นก็ลงมาลึกตามภาวะตลาดฯไปแล้ว
          วานนี้(30 ก.ค.)ราคาหุ้น EGCO ปิดที่ 81 บาท ลดลง 0.50 บาท(-0.61%)มูลค่าซื้อขาย 13.29 ล้านบาท ส่วนหุ้น RATCH ปิดที่ 40 บาท ราคาไม่มีการเปลี่ยนแปลง มูลค่าซื้อขาย 17.18 ล้านบาท