บมจ.วนชัย กรุ๊ป(VNG)คาดปี 52 รายได้พุ่งก้าวกระโดดอีกกว่า 700-800 ล้านบาท จากปีนี้ที่จะทำรายได้ราว 7-8 พันล้านบาท เป็นผลจากการเข้าซื้อโรงงาน MDF ซึ่งทำให้มีกำลังผลิตเพิ่มเข้ามาอีกราว 1 แสน ลบ.ม./ปี จะเริ่มผลิตได้ภายในปลายปีนี้ พร้อมทั้ง ทยอยปรับขึ้นราคาสินค้าตามภาวะต้นทุน ประเมินยอดขาย Q2/51 ทำได้ดีใกล้เคียง Q1/51
"ปีหน้าจะมียอดขายเพิ่มขึ้นอีก 700-800 ล้านบาท เพราะมีรายได้ที่เพิ่มขึ้นจากโครงการนี้อีก 700-800 ล้านบาท จะส่งผลให้รายได้รวมเพิ่มขึ้นไปอีก จากปกติยอดขายรวมจะอยู่ที่ 7,000-8,000 ล้านบาท" นายวรรธนะ เจริญนวรัตน์ กรรมการผู้จัดการ VNG เปิดเผยกับ"อินโฟเควสท์"
VNG เข้าซื้อโรงงานแผ่นใยไม้อัดความหนาแน่นปานกลาง(MDF)ที่จ.สระบุรี มูลค่าลงทุน 723 ล้านบาท ใช้เงินกู้จากสถาบันการเงิน ซึ่งจะทำให้บริษัทมีกำลังผลิตเพิ่มขึ้นอีก 100,000 ลบ.ม./ปี หรือเพิ่มเป็น 585,000 ลบ.ม./ปี จากเดิมอยู่ที่ 480,000 ลบ.ม./ปี โดยจะเริ่มกำลังการผลิตได้สิ้นปีนี้ หลังจากใช้เวลาซ่อมแซมประมาณ 3-4 เดือน
นายวรรธนะ กล่าวว่า กำลังการผลิตที่เพิ่มขึ้นจากโรงงานใหม่คิดเป็นมูลค่าประมาณ 700-800 ล้านบาท/ปี เป็นส่วนที่เข้าไปสมทบยอดขายให้เพิ่มขึ้น โดยปีที่แล้ว (50) บริษัทมียอดขายอยู่ที่ 7,000 กว่าล้านบาท และปีนี้ก็คงใกล้เคียงกันในระดับ 7,000-8,000 ล้านบาท เพราะไม่ได้มีกำลังการผลิตที่เพิ่มขึ้น
สำหรับผลิตภัณฑ์ของบริษัทนอกจากการแผ่น MDF แล้ว ยังมาจากการขายแผ่น Particle Board (PB) ด้วย ซึ่ง PB ยังผลิตเท่าเดิมไม่ได้ปรับเพิ่มขึ้น แต่สามารถปรับราคาขายขึ้นได้ตามต้นทุนที่เพิ่มสูงขึ้น โดยราคาขายปัจจุบันอยู่ที่ 5,000-8,000 บาท/ลบ.ม. ซึ่งเป็นราคาที่เพิ่มขึ้นจากก่อนหน้านี้
ส่วนในเร็วๆนี้จะปรับราคาขายอีกหรือไม่ ก็อยู่ระหว่างการพิจารณาภาวะต้นทุน แต่เชื่อว่าสามารถบริหารได้ ทั้งต้นทุนน้ำมันและวัตถุดิบ
"ก็ปรับอยู่...ปรับตามต้นทุนที่เพิ่มขึ้น แต่ถ้าจะคิดเป็นเปอร์เซนต์ก็ประเมินยาก เพราะมีหลายชนิดและก็ค่อยปรับมา ก็ปรับขึ้นอยู่เรื่อยๆ" นายวรรธณะ กล่าว
อนึ่ง ปี 50 บริษัทและบริษัทย่อยมีรายได้รวม 7,712.8 ล้านบาท และกำไรสุทธิ 506.8 ล้านบาท โดยส่งออก 70% ส่วนที่เหลือขายในประเทศ
*ยอดขาย Q2/51 ใกล้เคียง Q1/51
นายวรรธนะ กล่าวว่า ผลประกอบการไตรมาส 2/51 ยังไม่ได้สรุป แต่ไตรมาส 1/51 เป็นกำไรอยู่ 130 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 290% QoQ ซึ่งถ้ามีกำไรเราก็ปันผลอยู่แล้ว โดยปี 50 จ่ายในอัตราหุ้นละ 0.20 บาท
ในด้านยอดขายไตรมาส 2/51 คาดว่าจะใกล้เคียงกับไตรมาส 1/51 ที่มียอดขาย 1,942 ล้านบาท ไม่น่าจะแตกต่างกันมาก
อนึ่ง บทวิเคราะห์ บล.เอเซียพลัส ระบุผลประกอบการไตรมาส 1/51 ที่ฟื้นตัว เกิดจากการใช้กำลังการผลิตของโรงงาน Particle Board และ MDF ได้ตามปกติประมาณ 90% โดยมีปริมาณการขายแผ่น Particle Board อยู่ที่ 200,000 ลบม. ที่ราคาเฉลี่ย 160 เหรียญฯ/ลบม. ซึ่งเป็นราคาที่เพิ่มขึ้นถึง 40 เหรียญฯ จากงวด 4Q50 และ MDF จำนวน 90,000 ลบม. ที่ราคาเฉลี่ย 270 เหรียญฯ/ลบม.
--อินโฟเควสท์ โดย จำเนียร พรทวีทรัพย์/รัชดา/ศศิธร โทร.0-2253-5050 ต่อ 345 อีเมล์: sasithorn@infoquest.co.th--