PSL แจง Q2/51 กำไรพุ่งเป็นผลจากอัตราค่าระวางสูงต่อเนื่อง

ข่าวหุ้น-การเงิน Thursday July 31, 2008 14:16 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

          นายคูชรู คาลี วาเดีย กรรมการ บมจ.พรีเชียส ชิพปิ้ง (PSL) ชี้แจงผลการดำเนินงานสำหรับงวดสามเดือนสิ้นสุดวันที่ 30 มิถุนายน 2551 บริษัทและบริษัทย่อยมีกำไรสุทธิรวม 1,238.68 ล้านบาท เมื่อเปรียบเทียบกับกำไรสุทธิรวม 829.85 ล้านบาท สำหรับงวดเดียวกันของปี 2550 เหตุผลหลักรายได้จากการเดินเรือสุทธิ (รายได้จากการเดินเรือสุทธิจากรายจ่ายท่าเรือและน้ำมันเชื้อเพลิง) ของไตรมาสสองปี 2551 ลดลงจากไตรมาสเดียวกันของปี 2550 ประมาณร้อยละ 21 สาเหตุส่วนใหญ่เนื่องมาจากการเพิ่มขึ้นของรายได้การเดินเรือโดยเฉลี่ยต่อวันต่อลำเรือจาก 12,342 ดอลล่าร์สหรัฐ ในไตรมาสสองปี 2550 เป็น 16,511 ดอลล่าร์สหรัฐ สำหรับไตรมาสสองปี 2551 ซึ่งเป็นผลจากอัตราค่าระวางในตลาดสากลปรับตัวสูงขึ้นอย่างต่อเนื่องและจากการทำสัญญาใหม่ / ต่อสัญญาให้เช่าเรือ ที่หมดลงในไตรมาสนี้ที่อัตราค่าระวางในตลาดปัจจุบันหรือมากกว่า โดยรายได้จากการเดินเรือในไตรมาสสองปี 2551 และ ปี 2550 มาจากกองเรือเฉลี่ยจำนวน 44 ลำ
ค่าใช้จ่ายในการเดินเรือโดยเฉลี่ยต่อวันต่อลำเรือ สำหรับไตรมาสสองปี 2551 เท่ากับ 4,736 ดอลล่าร์สหรัฐ เมื่อเปรียบเทียบกับเดียวกันของปี 2550 อยู่ที่ 3,782 ดอลล่าร์สหรัฐ (รวมค่าใช้จ่ายตัดบัญชีสำหรับค่าใช้จ่ายในการซ่อมแซมและสำรวจเรือของทั้งสองงวด) ซึ่งเพิ่มขึ้นประมาณร้อยละ 25 เนื่องจากการเพิ่มขึ้นของค่าใช้จ่ายในการซ่อมแซมและสำรวจเรือโดยเฉพาะเรือที่มีอายุมากและค่าใช้จ่ายที่เกี่ยวกับลูกเรือ
ในไตรมาสสอง ปี 2550 บริษัทฯ ได้บันทึกกำไรจากการขายเรือ 1 ลำจำนวน 205.04 ล้านบาท และไม่มีการขายเรือในไตรมาสนี้ดังนั้นจึงไม่มีการบันทึกกำไรจากการขายเรือในไตรมาสนี้
ค่าเสื่อมราคาสำหรับไตรมาสสองของปี 2551 ลดลง 176.35 ล้านบาท เมื่อเปรียบเทียบกับไตรมาสเดียวกันของปี 2550เนื่องจากการเปลี่ยนประมาณการมูลค่าซากของเรือเดินทะเลโดยการประมาณการราคาเหล็กเพิ่มขึ้นเป็น 400 เหรียญสหรัฐฯต่อตัน จากเดิม 135 เหรียญสหรัฐฯต่อตัน (มูลค่าซากคำนวณโดยการคูณน้ำหนักซากเหล็กของเรือเดินทะเล (Light Displacement Tonnage) กับราคาประมาณเหล็กต่อตัน) การเปลี่ยนประมาณการดังกล่าวเพื่อให้เป็นไปตามราคาตลาดปัจจุบันของเหล็กที่เพิ่มขึ้นอย่างเป็นสาระสำคัญจากประมาณการเดิม
ค่าใช้จ่ายในการบริหารของไตรมาสสองปี 2551 ลดลง 41.76 ล้านบาท เมื่อเปรียบเทียบกับงวดเดียวกันของปี 2550 เนื่องจากในไตรมาสสองปี 2551 ไม่มีรายการปรับปรุงที่เคยเกิดในไตรมาสสองของปี 2550 ในเรื่องการเปลี่ยนแปลงนโยบายการลงบัญชีสำหรับโบนัสพนักงานจากบันทึกบัญชีเมื่อมีการจ่ายเงินเป็นบันทึกตามหลักการค้างจ่าย

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ