ภาวะตลาดหุ้นลอนดอน: ฟุตซี่ปิดลบ 8.8 จุดหลังดาวโจนส์ร่วงหนัก

          ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดขยับลงเมื่อคืนนี้ (31 ก.ค.) เพราะได้รับแรงกดดันจากการร่วงลงของดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์ก หลังจากทางการสหรัฐเปิดเผยตัวเลขจีดีพีทีขยายตัวต่ำกว่าคาดและตัวเลขว่างงานที่ปรับตัวสูงขึ้น นอกจากนี้ ตลาดหุ้นลอนดอนยังได้รับปัจจัยลบจากผลประกอบการที่น่าผิดหวังของบริษัทบีทีซึ่งอยู่ในกลุ่มโทรคมนาคม และบริษัทยูนิลีเวอร์ 
          สำนักข่าวธอมสัน ไฟแนนเชียลรายงานว่า ดัชนี FTSE 100 ปิดลบ 8.8 จุด หรือ 0.16% แตะระดับ 5,411.9 จุด หลังจากเคลื่อนตัวในช่วง 5,371.3-5,456.1 จุด
          เดวิด ไฟน์เบิร์ก นักวิเคราะห์จากซีเอ็มซี มาร์เก็ตส์ กล่าวว่า ภาวะการซื้อขายในตลาดหุ้นลอนดอนซบเซาลงเมื่อดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กดิ่งลงอย่างรุนแรง หลังจากกระทรวงพาณิชย์สหรัฐรายงานว่า ตัวเลขจีดีพีไตรมาสสองขยายตัวเพียง 1.9% ซึ่งต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะขยายตัวขึ้น 2.4% ต่อปี และกระทรวงแรงงานสหรัฐรายงานว่า จำนวนชาวอเมริกันที่ขอเข้ารับสวัสดิการในระหว่างว่างงานพุ่งขึ้น 44,000 ราย แตะระดับ 448,000 รายในสัปดาห์ที่สิ้นสุดวันที่ 26 ก.ค.จากสัปดาห์ก่อนหน้านั้นที่ระดับ 404,000 ราย ซึ่งเป็นการพุ่งขึ้นแตะระดับสูงสุดในรอบ 5 ปี
          นักลงทุนในตลาดหุ้นลอนดอนวิตกกังวลเกี่ยวกับแนวโน้มเศรษฐกิจของอังกฤษมากขึ้น เมื่อเนชั่นไวด์เปิดเผยว่า ราคาบ้านในอังกฤษประจำเดือนก.ค.ร่วงลงเป็นเดือนที่ 9 ติดต่อกัน และร่วงลงเกือบ 10% จากปีก่อนหน้านี้ และสถาบัน Gfk NOP ซึ่งเป็นองค์กรวิจัยเศรษฐกิจของอังกฤษระบุว่า ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคของอังกฤษร่วงลงแตะระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เริ่มเก็บข้อมูลในปี 2517 ซึ่งส่วนใหญ่เป็นผลจากราคาบ้านที่ปรับตัวลดลง
          หุ้นกลุ่มโทรคมนาคมถูกแรงขายทุบร่วงลงอย่างหนัก หลังจากบริษัทบีที กรุ๊ปรายงานว่า ตัวเลขกำไรเพิ่มขึ้นต่ำกว่าที่คาดในไตรมาสแรก ซึ่งฉุดราคาหุ้นบีทีร่วงลง 12% ขณะที่หุ้นคาร์โฟน แวร์เฮาส์ปิดร่วง 2% หลังจากบริษัทคาร์โฟน แวร์เฮาส์ ซึ่งเป็นบริษัทโทรคมนาคมและค้าปลีกโทรศัพท์มือถือรายใหญ่ของอังกฤษประกาศลดตัวเลขคาดการณ์ลูกค้าอินเทอร์เน็ตความเร็วสูงในปีนี้
          ส่วนหุ้นยูนิลีเวอร์ดิ่งลง 8.1% หลังจากบริษัทเปิดเผยยอดขายที่น่าผิดหวังในไตรมาสสอง ซึ่งเป็นปัจจัยลบที่ฉุดหุ้นตัวอื่นๆในกลุ่มผู้ผลิตอาหารร่วงลงด้วย โดยหุ้นแอสโซซิเอเท็ด บริติช ฟูดส์ร่วงลง 1.4% และหุ้นแคดบิวรีร่วงลง 3.4% 
          อย่างไรก็ตาม หุ้นกลุ่มเวชภัณฑ์ดีดตัวขึ้น โดยหุ้นแอสตราเซเนกาพุ่งขึ้น 3.3 % หลังจากแอสตราเซเนกาปรับเพิ่มตัวเลขคาดการณ์ผลกำไรตลอดทั้งปี และหุ้นไชร์พุ่งขึ้น 3.7% หลังจากบริษัทเปิดเผยผลประกอบการไตรมาสสองที่สูงเกินคาด เนื่องจากยอดขายยา Adderall XR พุ่งสูงขึ้น ซึ่งยาดังกลาวใช้รักษาโรคสมาธิสั้น