ภาวะตลาดหุ้นไทยแนวโน้มดัชนีเช้าปรับตัวลง ตามตลาดตปท. เหตุวิตกเศรษฐกิจสหรัฐฯใกล้ถดถอย

          นางสุภากร สุจิรัตนวิมล ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ บล.เคทีบี กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้คาดว่าจะปรับตัวลงในทิศทางเดียวกับตลาดต่างประเทศ ทั้งดาวโจนส์ที่ปรับตัวลงกว่า 200 จุดและตลาดหุ้นอื่น ๆ ในภูมิภาคเอเชียเช้านี้ต่างปรับตัวลงกันทั่วหน้า ทั้งนี้เป็นผลจากที่ตัวเลขจีดีพีของสหรัฐฯออกมาขยายตัวแค่ 1.9% ต่ำกว่าที่ตลาดฯคาดการณ์กันไว้ประมาณ 2.3% และยังมีตัวเลขเศรษฐกิจอื่นอีกที่ออกมากไม่ค่อยดีนัก ทำให้นักลงทุนต่างกลับมาวิตกกังวลเกี่ยวกับเศรษฐกิจของสหรัฐฯอีกครั้ง จึงขายออกมาเพื่อลดความเสี่ยงเพราะมองว่าเศรษฐกิจสหรัฐฯใกล้ถดถอยแล้ว
          ส่วนตลาดหุ้นไทยเองก็มีประเด็นที่นักลงทุนให้ความวิตกกังวลกันเกี่ยวกับการเมือง ในเรื่องที่จะมีการพิจารณาแก้ไขรัฐธรรมนูญ ทำให้มีผู้คัดค้านออกมาประท้วงชุมนุมกัน 
          พร้อมให้แนวรับไว้ที่จุดต่ำสุดเดิมที่ 660-665 จุด ส่วนแนวต้านให้ไว้ที่ 683-685 จุด          
          ประเด็นของการพิจารณาการลงทุน :  
          - ตลาดหุ้นนิวยอร์คเมื่อวานนี้(31 ก.ค.) ดัชนีดาวโจนส์ ปิดที่ 11,378.02 จุด ลดลง 205.67 จุด(-1.78%) ดัชนีเอสแอนด์พี 500 ปิดที่ 1,267.38 จุด ลดลง 16.88 จุด(-1.31%) และดัชนีแนสแด็ก ปิดที่ 2,325.55 จุด ลดลง 4.17 จุด (-0.18%)  
          - นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิ 290.29 ล้านบาทเมื่อวานนี้
          - ราคาน้ำมันดิบส่งมอบเดือน ก.ย.ในตลาดไนเม็กซ์ปิดทำการเมื่อวานนี้ที่ 124.08 ดอลลาร์/บาร์เรล ลดลง 2.69 ดอลลาร์หรือ2.12%
          - อธิบดีกรมการค้าภายใน เผยจะยังไม่ให้สินค้าน้ำมันพืชปรับขึ้นราคาในวันที่ 1 ส.ค.นี้ แม้สมาคมผู้ผลิตน้ำมันถั่วเหลืองและรำข้าวออกมาประกาศว่าจะชะลอการผลิตน้ำมันถั่วเหลืองบรรจุขวด หากไม่ได้รับการอนุญาตให้ปรับขึ้นราคาจากกระทรวงพาณิชย์ ตามข้อสรุปของคณะอนุกรรมการพิจารณาราคาแนะนำน้ำมันพืช ที่มีมติให้น้ำมันถั่วเหลืองบรรจุขวดปรับขึ้น 4.50 บาท เป็น 54 บาท น้ำมันปาล์มบรรจุขวดปรับขึ้น 2.50 บาท เป็น 50 บาท
          - ธปท.เผยดัชนีความเชื่อมั่นทางธุรกิจลดลงอย่างต่อเนื่อง ล่าสุดในเดือนมิ.ย.อยู่ที่ 40.9 ถือว่า ต่ำสุดรอบ 11 เดือน เหตุจากต้นทุนการผลิตที่สูงและความไม่แน่นอนทางการเมือง ส่งผลให้อัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจในไตรมาสสองของปีจะขยายตัวต่ำกว่า 6% “อัมรา"โต้ตั้งกองทุนบริหารเงินสำรองระหว่างประเทศต้องพิจารณาหลายปัจจัยรอบด้าน
          - "ภัทรียา" ยันกรณีศาลอาญาตัดสินจำคุกคุณหญิงพจมาน ชินวัตร ไม่มีผลกระทบต่อจิตวิทยาการลงทุนในตลาดหุ้น ขณะที่บุคคลที่เกี่ยวข้องไม่ได้เป็นผู้บริหารบริษัทจดทะเบียนชี้ความรุนแรงไม่เกินถ้าทุกฝ่ายยอมรับกระบวนการยุติธรรม ส่วนการปรับโครงสร้างตลาดพร้อมสรุปแผนชัดเจนส่งให้บอร์ดพิจารณาภายในเดือนพ.ย.นี้
          - ธปท.ไม่คัดค้านการตั้งกองทุนเพื่อความมั่งคั่งแห่งชาติ ที่กระทรวงการคลังมีแนวคิดจะ ดึงเงินทุนสำรองทางการระหว่างประเทศ 1 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐ หรือ 3.3 แสนล้านบาท ออกไปลงทุนในตลาดเงินและตลาดทุน
          - ธปท.เผยแนวโน้มเศรษฐกิจ ในช่วงครึ่งปีหลังนี้ ยังมีปัจจัยเสี่ยงจากต้นทุนที่สูงขึ้น ทั้งจากความ ไม่แน่นอนของการขยายตัวของเศรษฐกิจโลก เนื่องจากปัญหาซับไพรม์ของสหรัฐ และยังมีปัญหาความไม่แน่นอนทางการเมืองของไทย ส่งผลให้เป็นแรงกดดันการเติบโตของเศรษฐกิจไทยครึ่งปีหลังได้ โดยเฉพาะภาวะการลงทุนที่ยังน่าเป็นห่วง เพราะหากพิจารณาจากดัชนีความเชื่อมั่นทางธุรกิจในช่วง 3 เดือนข้างหน้าแล้ว ยังอยู่ในเกณฑ์ต่ำที่ 46.1 สะท้อนว่านักลงทุนยังไม่เชื่อมั่น เพราะกังวลเรื่องเงินเฟ้อและราคาน้ำมันที่สูงขึ้น ซึ่งจากการสำรวจความเห็นของนักธุรกิจส่วนใหญ่ยังมีการคาดการณ์ว่าเงินเฟ้อจะสูงกว่า 6%
          - วันนี้กระทรวงพาณิชย์ประกาศตัวเลขเงินเฟ้อเดือนก.ค.