นักวิเคราะห์ บล.ฟิลลิป (ประเทศไทย) กล่าวว่า ไม่ค่อยมั่นใจในปัจจัยพื้นฐานบมจ.ลีฟวิ่งแลนด์ (LL) เพราะประมาณการผู้บริหารบอกว่าจะ Growth เยอะๆ แต่ในรายละเอียดตัวเลขยอดจองบ้านที่ผ่านมาไม่เปิดเผยจึงทำประมาณการได้ยาก และหุ้นส่วนมากอยู่ในมือผู้ถือหุ้น LL ทั้งหมด
"หุ้นแบบนี้วันแรกๆ ที่กลับมาเข้ามาเทรดจะไม่สะท้อนปัจจัยพื้นฐานใดๆ ทั้งสิ้นเพราะซื้อขายอยู่ในกลุ่มบุคคลเล็กๆ จะสะท้อนปัจจัยพื้นฐานไม่ได้"
วันนี้มีหุ้นทั้งหมด 720 ล้านหุ้น เนื่องจาก LL ทำแบล็กดอร์ลิสซิ่งเข้าทางบมจ. นครหลวงเส้นใยสังเคราะห์ (HTX) ซึ่ง HTX มีเจ้าหนี้และหุ้นของเจ้าหนี้น้อยมากประมาณ 1.7% ของ 720 ล้านหุ้นหรือประมาณ 12 ล้านหุ้น แต่ต้นทุนสูงมากที่ 10 บาท/หุ้น ส่วนที่เหลือ 700 ล้านหุ้น เป็นของผู้ถือหุ้นใหม่กลุ่ม LL และมีอีกส่วนหนึ่งที่มีเพิ่มทุน PP ล็อตนี้ประมาณ 14.74% หรือ 100 ล้านหุ้น ต้นทุนเฉลี่ย 2 บาท
"เป็นผู้ประกอบการรายกลาง earning มองไม่ชัด แต่ถ้าดู valuation ในตลาด ดูหุ้นอสังหาริมทรัพย์ที่เทรดในตลาดก็ไม่ได้คึกคักมาก และมองไม่เห็นความชัดเจนของปัจจัยพื้นฐาน จึงไม่สามารถประเมินมูลค่าได้"นักวิเคราะห์ กล่าว
ขณะที่ผู้บริหารเปิดเผยกับสื่อมวลชน ปีนี้คาดว่าจะมียอดรับรู้รายได้จะอยู่ที่ 1.86 พันล้านบาท โตเท่าตัวจากปีที่แล้วรับรู้รายได้ประมาณ 700-800 ล้านบาท เป็นรวมงบฯครึ่งปี
ด้านบล.โกลเบล็ก ประเมินมูลค่าหุ้น ในการประเมินราคาเหมาะสมด้วยวิธี PER ที่ระดับ 10 เท่าเทียบกับ PER ห้นกลุ่มอสังหาริมทรัพย์ที่ 12 เท่าได้ราคาเหมาะสมประมาณ 2.80 บาทหากประเมินด้วยวิธี P/BV โดยกำหนดให้ซื้อขายที่ระดับ 1.5 เท่าจะได้ราคาเหมาะสม2.09 บาท ดังนั้น ราคาเหมาะสมของหุ้นอยู่ระหว่าง 2.09 — 2.80 บาท
บมจ.บริษัทลิฟวิ่งแลนด์ แคปปิตอล (LL) เดิมชื่อบมจ. นครหลวงเส้นใยสังเคราะห์ (HTX) ซึ่งประกอบธุรกิจผลิตและจำหน่ายเส้นใยสังเคราะห์และเส้นด้ายไนล่อนประสบปัญหาผลการดำเนินขาดทุนและต้องเข้าสู่กระบวนการฟื้นฟูกิจการเมื่อเดือนก.ย.48 และในเดือนพ.ค.49 กลุ่มนักลงทุนรายใหม่ได้แก่กลุ่มลีฟวิ่งแลนด์ได้เข้ามาเป็นผู้ถือหุ้นรายใหม่และเปลี่ยนชื่อเป็น LL
--อินโฟเควสท์ โดย จำเนียร พรทวีทรัพย์/รัชดา โทร.0-2253-5050 ต่อ 317 อีเมล์: rachada@infoquest.co.th--