บมจ.ระบบขนส่งมวลชนกรุงเทพ(BTS) คาดว่าจะสามารถออกจากแผนฟื้นฟูกิจการได้ราวเดือน ก.ย.51 หลังจากจัดการกับภาระหนี้สินที่มีอยู่กว่า 600 ล้านดอลลาร์สหรัฐได้สำเร็จ ส่วนการเสนอขายหุ้นให้กับประชาชนครั้งแรก(IPO) คาดว่าจะดำเนินการได้ในช่วงไตรมาส 1/52 ซึ่งเลื่อนออกไปจากแผนเดิมในไตมาส 4/51 ขณะที่เตรียมแผนงานที่จะเสนอตัวเข้าลงทุนส่วนต่อขยายรถไฟฟ้าสายเดิม เส้นทางสายสีเขียว โดยขอแค่เงื่อนไขการสนับสนุนจากภาครัฐให้เอกชนอยู่ได้
นายคีรี กาญจนพาสน์ ประธานกรรมการบริหาร BTS กล่าวว่า BTS จะออกแผนฟื้นฟูฯ ได้ไม่เกิน ก.ย.หรือราวต้นเดือน ก.ย.51 แต่การขายหุ้น IPO คงจะไม่ทันภายในปีนี้ คาดว่าคงจะเข้าตลาดได้ภายในไตรมาส 1/52 โดยจะนำเสนอขายหุ้น IPO ราว 20% ของทุนทดะบียน และหลัง IPO จะมีทุนจดทะเบียน 1.6-1.7 หมื่นล้านบาท
ขณะนี้บริษัทรอศาลล้มละลายนัดฟังคำสั่งศาลเกี่ยวกับเรื่องการพิจารณาถอดถอนการยื่นคัดค้านของเจ้าหนี้บางกลุ่ม ซึ่งคาดว่าศาลจะนัดภายในเดือน ส.ค.นี้ หลังจากนั้น บริษัทจะดำเนินการตามแผนฟื้นฟูกิจการ โดยจะลดทุนจดทะเบียน และเพิ่มทุนจดทะเบียนให้กับผู้ถือหุ้นรายใหม่ประมาณ 600 ล้านดอลลาร์ เพื่อนำไปชำระคืนหนี้ให้กับเจ้าหนี้
ผู้ที่จะเข้ามาซื้อหุ้นเพิ่มทุนจะมีทั้งผู้ถือหุ้นเดิม และพันธมิตรรายใหม่ รวมกัน 3-4 ราย ซึ่งมีทั้งบริษัทในประเทศและต่างประเทศ
"เรามีแผนว่าจะออกจากแผนฟื้นฟูได้ภายในเดือนก.ย.นี้ และถ้าออกจากแผนได้ เราก็ตั้งใจจะเข้าตลาดโดยเร็ว แต่ดูแล้วเวลาที่เหลือที่จะออกขายหุ้น IPO ปีนี้คงไม่ทัน คิดว่าไตรมาส 1 ปีหน้าน่าจเป็นไปได้" นายคีรี กล่าว
ปัจจุบัน ผู้ถือหุ้น BTS มีกลุ่มนิวเวิลด์จากฮ่องกง ,ซัมซุงประกันชีวิต เป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ โดยหลังจากดำเนินการตามแผนฟื้นฟูแล้ว สัดส่วนการถือหุ้นของกลุ่มพันธมิตรใหม่จะอยู่กว่า 80% ส่วนผู้ถือหุ้นเดิมและเจ้าหนี้ที่แปลงหนี้เป็นทุนจะถือรวมกันประมาณ 10 กว่า% ซึ่งในจำนวนดังกล่าวจะมี บมจ.ธนายง(TYONG) ถือหุ้น 1-2%
แหล่งข่าวจาก BTS กล่าวว่า ทั้งกลุ่มนิวเวิลด์และซัมซุงฯ มีความเป็นไปได้ที่จะเข้ามาซื้อหุ้นเพิ่มทุน เพื่อเพิ่มสัดส่วนการถือหุ้นใน BTS
นายคีรี กล่าวอีกว่า หลังจากออกจากแผนฟื้นฟูแล้ว BTS จะติดต่อกับรัฐบาล เพื่อยื่นข้อเสนอที่จะขอเป็นผู้ลงทุนในโครงการส่วนต่อขยายรถไฟฟ้าสายสีเขียว แต่รัฐบาลต้องมีเงื่อนไขที่จะทำให้เอกชนสามารถดำเนินกิจการได้ไม่ลำบาก
"ผมคงต้องรอให้ออกจากแผนก่อน และจะติดต่อกับทางรัฐบาลว่าเราพร้อมที่จะลงทุน แต่ก็ต้องมี commission บางอย่างให้กับเรา เพราะรัฐบาลก็ทำหลายสาย ก็ต้องกู้เงินมาก แต่ถ้าหากมีเอกชนมาช่วยแบ่งเบาภาระตรงนี้ได้ก็คิดว่าน่าจะเป็นแนวทางที่ดี"นายคีรี กล่าว
ส่วนกรณีที่นายกรัฐมนตรีเคยมีนโยบายที่จะเข้ามาซื้อกิจการ BTS แต่จนกระทั่งถึงขณะนี้ยังไม่ได้รับการติดต่อจากหน่วยงานใดของภาครัฐ ซึ่งบริษัทเองก็ไม่เข้าใจเหตุผลที่นายกฯ ต้องการเข้ามาซื้อกิจการ
นายคีรี ยังคาดว่า จำนวนผู้โดยสารรถไฟฟ้า BTS ในปีนี้จะเติบโตประมาณ 10% และปี 52 จะเติบโตราว 8-10% ปัจจุบันมีจำนวนผู้โดยสารอยู่ที่ 4.6 แสนเที่ยว/วัน และวันศุกร์ต้นเดือนจะมีจำนวนผู้โดยสารสูงถึงกว่า 5 แสนเที่ยว/วัน
--อินโฟเควสท์ โดย เสาวลักษณ์ อวยพร/ศศิธร/รัชดา โทร.0-2253-5050 ต่อ 317 อีเมล์: rachada@infoquest.co.th--