GLOBAL คงแผนเข้าตลาด Q3/51, กำหนดสัดส่วนกระจายหุ้นสัปดาห์นี้

ข่าวหุ้น-การเงิน Monday August 4, 2008 10:45 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

          นายวิฑูร สุริยวนากุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ. สยามโกลบอลเฮ้าส์ (GLOBAL) เดินหน้าแผนเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ (SET) ตามที่วางแผนไว้ในช่วงไตรมาส 3/51 (ปลายเดือนส.ค-ก.ย.51) และไม่รู้สึกกังวลกับภาวะตลาดที่ผันผวนในตอนนี้ 
ในสัปดาห์นี้ทางแอสเซท โปร แมเนจเม้นท์ จำกัด ในฐานะที่ปรึกษาทางการเงินจะมีการหารือกับบล.กิมเอ็ง (ประเทศไทย) เพื่อกำหนดสัดส่วนการกระจายหุ้น เนื่องจากมีผู้แสดงความสนใจจองซื้อหุ้นจำนวนมาก อีกทั้งกังวลว่าหุ้นจะขาดสภาพคล่องเมื่อเข้ามาซื้อขาย เพราะส่วนใหญ่จะถือลงทุนในระยะยาว จึงต้องการที่จะกระจายหุ้นให้สมดุลและให้เหมาะสมทั้งรายย่อยและสถาบัน จากจำนวน IPO ที่ 260 ล้านหุ้น หรือคิดเป็น 27.08% ของทุนจดทะเบียน
"เรื่องการกำหนดราคาหุ้นเราไม่ได้ห่วงเพราะผมมีที่ปรึกษาทางการเงินที่มีคุณภาพดูแลให้ แต่ตอนนี้เป็นห่วงจำนวนหุ้นที่จะกระจายจะไม่พอกับความต้องการที่มีมาก ตอนนี้ผมก็บริหารเต็มที่และรักษาอัตราการเติบโตที่เฉลี่ย 20-25 % 3 ปีต่อเนื่อง ก็พอใจ ส่วนสภาพเศรษฐกิจครึ่งปีหลังอาจจะกระทบกับเราบ้างแต่เราไม่ได้กังวลมาก เพราะจุดแข็งของบริษัทฯเราคือมีความกว้างของผลิตภัณฑ์ อีกทั้งเรายังมีสาขาใหม่ๆเพิ่มขึ้นอีก'นายวิฑูร กล่าว
นายวิฑูร กล่าวว่า ที่ผ่านมาบริษัทได้มีการเจรจากับนักลงทุนอินโดเนียที่สนใจเข้ามาร่วมทุนตั้งบริษัทใหม่ แต่อย่างไรก็ตาม ยังไม่มีข้อสรุป เพราะบริษัทต้องการเดินหน้าเข้าตลาดหุ้นก่อน แต่ก็ยอมรับว่าตลาดในอินโดฯ เป็นตลาดใหญ่ ซึ่งในอนาคตอาจจะนำบริษัทร่วมทุนเข้าจดทะเบียนเข้าตลาดอินโดฯ ก็ได้
ในปีนี้บริษัทตั้งเป้ามีรายได้เติบโตเฉลี่ยปีละ 25% และจะรักษาการเติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยเชื่อมั่นว่ารายได้จะเติบโตตามเป้าหมาย เนื่องจากมียอดขายจากสาขาเดิม และมียอดขายเพิ่มจากการขยายสาขาใหม่ นอกจากนั้น หลังจากที่เข้าซื้อขายในตลาดฯ แล้วเชื่อว่าอัตราหนี้สินต่อส่วนของผู้ถือหุ้น(D/E)จะลดลงเหลือ 0.3 เท่า จากปัจจุบันอยู่ที่ 1.01 เท่า
สำหรับเงินที่ได้จากการระดมทุนครั้งนี้จะใช้ในการขยายสาขาเพิ่ม ซึ่งอนาคตจะขยายในเขต กทม.เพิ่มขึ้น จากปัจจุบันทั่วประเทศมีอยู่แล้ว 7 สาขา ส่วนการที่ต้นทุนปรับเพิ่มขึ้นจากราคาน้ำมันไม่น่าส่งผลกระทบต่อบริษัทเพราะสามารถปรับขึ้นตามความเหมาะสมได้ โดยเฉลี่ยบริษัทฯได้ปรับราคาขายสินค้าบางประเภทเพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับต้นปีที่ผ่านมาประมาณ 10%

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ