SAM ลุ้นบอร์ดต้น ส.ค.จ่ายปันผลระหว่างกาล เชื่อทั้งปีนี้พลิกเป็นกำไรแน่

         บมจ.สามชัย สตีล อินดัสทรี (SAM) คาดว่าที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทต้นเดือน ส.ค.นี้จะพิจารณาการจ่ายเงินปันผลระหว่างกาลเป็นครั้งแรก ตามแนวโน้มผลประกอบการปี 51 ที่น่าจะพลิกเป็นกำไร จากปี 50 ที่ขาดทุน 73.67 ล้านบาท หลังจากไตรมาสแรกเริ่มฟื้นตัวและมีส่วนเกินมูลค่าหุ้นสูงขึ้น พร้อมตั้งเป้ารายได้ปีนี้โต 40% จากปีก่อนเป็น 5.5 พันล้านบาท จากอานิสงส์ราคาเหล็กและปริมาณขายสูงขึ้น ส่งให้อัตรากำไรขั้นต้นสูงกว่า 10% สูงกว่าปีก่อนอยู่ที่แค่ 4.59%
          นายโภคพิบูลย์ อ้นเอี่ยม ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ SAM กล่าวกับ“อินโฟเควสท์"ว่า บริษัทมั่นใจว่าจะกลับมามีกำไรในปีนี้ เนื่องจากไตรมาส 1/51 บริษัทมีกำไรสุทธิถึง 74.64 ล้านบาท นอกจากนี้ ยังคาดว่าอัตรากำไรขั้นต้นเฉลี่ยทั้งปี 51 จะสูงกว่า 10% หลังจากช่วงไตรมาสแรกทำได้สูงถึง 10.29% จากปี 50 มีอัตรากำไรขั้นต้นเฉลี่ยทั้งปีที่ 4.59% 
          ส่วนไตรมาส 2/51 คาดว่ารายได้จะเติบโตต่อเนื่องจากไตรมาส 1/51 แต่ยังไม่สามารถเปิดเผยในรายละเอียดได้มากนัก เพราะอยู่ระหว่างเตรียมการแจ้งตลาดหลักทรัพย์ฯ 
          นอกจากนี้ จากการที่บริษัทมีกำไรจากแนวโน้มผลประกอบการที่ดีและส่วนเกินมูลค่าหุ้นสูง ทำให้นักวิเคราะห์ประเมินว่าบริษัทจะดำเนินการจ่ายปันผลระหว่างกาลนั้น นายโภคพิบูลย์ กล่าวว่า ขึ้นกับการพิจารณาของคณะกรรมการบริษัทพิจารณา ที่จะมีการประชุมกันในช่วงต้นเดือนส.ค.เพื่อรับรองงบผลดำเนินงานไตรมาส 2/51 ก่อนรายงานตลาดหลักทรัพย์ภายใน 14 ส.ค.โดยบริษัทกำหนดนโยบายจ่ายปันผลที่ 40% ของกำไรสุทธิ
          "มั่นใจว่าปีนี้จะมีกำไรจากที่ปีก่อนขาดทุน และรายได้น่าจะได้ตามเป้าหมาย และแม้ว่าผลประกอบการจะดีกว่าปีก่อนมาก รวมทั้งมีส่วนเกินมูลค่าหุ้นสูง แต่การจ่ายปันผลเป็นเรื่องที่บอร์ดต้องพิจารณาความเหมาะสมต้องดูว่ามีความจำเป็นในการลงทุนอะไรอีกที่ต้องใช้เงิน อย่างไรก็ตาม ตั้งแต่บริษัทเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์เมื่อปี 47 บริษัทยังไม่เคยจ่ายปันผลเลย"นายโภคพิบูลย์ กล่าว
          สำหรับรายได้ในปี 51 บริษัทตั้งเป้าที่ 5.5 พันล้านบาท หรือเติบโต 40% จากปี 50 ที่มีรายได้ 3.9 พันล้านบาท จากปัจจัยด้านราคาเหล็กที่ปรับตัวเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่องในปี 51 รวมทั้งปริมาณการขายที่เพิ่มขึ้นจากปีก่อนด้วย
          "การตั้งเป้าหมายการเติบโตของรายได้ที่ 40% สูงกว่าประมาณการณ์เดิมที่บริษัทตั้งเป้าหมายรายได้เติบโตประมาณ 20% จากปี 50 ซึ่งมาจากราคาเหล็กที่อยู่ในระดับสูง และความชัดเจนทางการเมืองในช่วงต้นปี ส่งผลให้ความต้องการในประเทศเพิ่มขึ้นในทิศทางเดียวกับต่างประเทศ ดูจากยอดขายเหล็กตั้งแต่ต้นปี 51 เมื่อเดือน ม.ค.มามียอดขายที่ดีขึ้นต่อเนื่อง"นายโภคพิบูลย์ กล่าว 
          ปัจจุบัน บริษัทผลิตเหล็ก 4 ประเภทหลัก คือ 1.เหล็กโครงสร้าง 2.ท่อเหล็กชุบสังกะสี โดยมีเส้นผ่านศูนย์กลางตั้งแต่ 0.5 นิ้ว ถึง 6 นิ้ว 3.ท่อเหล็กเฟอร์นิเจอร์ บริษัทสามารถผลิตท่อเฟอร์นิเจอร์ได้ทั้งรูปทรงกลมและทรงเหลี่ยม 4.เหล็กแผ่นดำ
          ด้านการหาพันธมิตรเพื่อมาส่งเสริมธุรกิจนั้น ผู้บริหาร SAM กล่าวว่า บริษัทยังไม่มีการหาพันธมิตรเพิ่มเติมทั้งรูปแบบพันธมิตรและการควบรวมกิจการ แม้ว่าที่ผ่านมาจะมีกระแสข่าวว่าบริษัทกำลังเจรจาพันธมิตรใหม่ก็ตาม 
          "ยืนยันว่าไม่มี(เรื่องพันธมิตรใหม่)แต่อย่างใด บริษัทยังคงดำเนินงานตามปกติซึ่งปีนี้ถือว่าเป็นปีที่ดีมากสำหรับธุรกิจเหล็ก"นายโภคพิบูลย์ กล่าวทิ้งท้าย