ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดลดลงเมื่อคืนนี้ (4 ก.ค.) เพราะได้รับปัจจัยลบจากดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กที่ร่วงลง และหุ้นกลุ่มเหมืองแร่ที่ปรับฐานลงหลังจากราคาโลหะในตลาดโลกร่วงลงอย่างรุนแรง
สำนักข่าวธอมสัน ไฟแนนเชียลรายงานว่า ดัชนี FTSE 100 ปิดลบ 34.5 จุด แตะระดับ 5,320.2 จุด หลังจากเคลื่อนตัวในช่วง 5,310.3-5,414.7 จุด
ภาวะการซื้อขายในตลาดหุ้นลอนดอนซบเซาลงเนื่องจากดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กเคลื่อนไหวในแดนลบตลอดทั้งวัน เนื่องจากราคาน้ำมันดิบที่ร่วงลงแตะระดับต่ำสุดในรอบ 3 เดือนได้ฉุดราคาหุ้นกลุ่มพลังงานร่วงลงด้วย และยังฉุดหุ้นกลุ่มเหมืองแร่ในตลาดหุ้นลอนดอนดิ่งลงเช่นกัน
นอกจากนี้ ตลาดหุ้นลอนดอนยังได้รับแรงกดดันจากรายงานที่ว่า ตัวเลขการใช้จ่ายผู้บริโภคประจำเดือนมิ.ย.ของสหรัฐที่ร่วงลง 0.8% ซึ่งเป็นผลมาจากภาวะตกต่ำในตลาดที่อยู่อาศัยและราคาน้ำมันเบนซินที่พุ่งขึ้นอย่างรุนแรง นอกจากนี้ นักลงทุนยังมีท่าทีระมัดระวังก่อนที่ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะประชุมเพื่อตัดสินใจเรื่องอัตราดอกเบี้ยในวันอังคารที่ 5 ส.ค. ซึ่งกระแสคาดการณ์ส่วนใหญ่บ่งชี้ว่า เฟดอาจตรึงอัตราดอกเบี้ยประเภทระยะสั้นไว้ที่ 2.00% เพื่อพยุงเศรษฐกิจให้ขยายตัวต่อไปได้
หุ้นกลุ่มเหมืองแร่ร่วงลงอย่างหนัก โดยหุ้นอันโตฟากัสตาดิ่งลง 44 เพนซ์ ปิดที่ 504 เพนซ์ หุ้นคาซัคมิสร่วงลง 135 เพนซ์ ปิดที่ 1288 เพนซ์ หุ้น ENRC ดิ่งลง 58 เพนซ์ ปิดที่ 998 เพนซ์ และหุ้นเวแดนตา ร่วงลง 156 เพนซ์ ปิดที่ 1755 เพนซ์
--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย รัตนา พงศ์ทวิช โทร.0-2253-5050 ต่อ 327 อีเมล์: ratana@infoquest.co.th--