ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นกว่า 300 จุดเมื่อคืนนี้ (5 ส.ค.) หลังจากธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) มีมติคงอัตราดอกเบี้ยตามความคาดหมายของนักวิเคราะห์ส่วนใหญ่ และแสดงความคิดเห็นที่ค่อนข้างเป็นบวกต่อแนวโน้มการขยายตัวของเศรษฐกิจสหรัฐ
สำนักข่าวเอพีรายงานว่า ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์พุ่งขึ้น 331.62 จุด 2.94% ปิดที่ 11,615.77 จุด ขณะที่ดัชนี S&P 500 ดีดตัวขึ้น 35.87 จุด หรือ 2.87% ปิดที่ 1,284.88 จุด และดัชนี Nasdaq ทะยานขึ้น 64.27 จุด หรือ 2.81% ปิดที่ 2,349.83 จุด
ปริมาณการซื้อขายในตลาดหุ้นนิวยอร์กมีอยู่ประมาณ 5.35 พันล้านหุ้น เพิ่มขึ้นจากวันจันทร์ที่ 4.65 พันล้านหุ้น มีจำนวนหุ้นบวกมากกว่าหุ้นลบในอัตราส่วน 3 ต่อ 1
ไบรอัน เจนดรู นักยุทธศาสตร์ด้านการลงทุนจากบริษัทไอเอ็นจี อินเวสท์เมนท์ เมเนจเมนท์ กล่าวว่า "นักลงทุนขานรับการตัดสินใจคงอัตราดอกเบี้ยประเภทระยะสั้นของเฟด และการแสดงความคิดเห็นที่เป็นบวกต่อแนวโน้มการขยายตัวของเศรษฐกิจสหรัฐ แม้ว่าเฟดจะแสดงความกังวลเรื่องเงินเฟ้ออยู่บ้างก็ตาม"
คณะกรรมการกำหนดนโยบายของเฟดมีมติคงอัตราดอกเบี้ยประเภทระยะสั้น (fed funds rate) ไว้เท่าเดิมที่ 2.00% และคงอัตราดอกเบี้ยมาตรฐาน (discount rate) ในการประชุมครั้งล่าสุดซึ่งเสร็จสิ้นเมื่อคืนนี้ (ตามเวลาประเทศไทย) พร้อมกับออกแถลงการณ์ภายหลังการประชุมว่า "คณะกรรมการเฟดมีมติคงอัตราดอกเบี้ยไว้เพื่อพยุงเศรษฐกิจให้ขยายตัวต่อไปได้ แต่เฟดยอมรับว่าอัตราเงินเฟ้อภายในประเทศยังอยู่ในระดับสูง ซึ่งเป็นผลมาจากราคาน้ำมันและสินค้าโภคภัณฑ์ประเทศอื่นๆที่พุ่งสูงขึ้น สถานการณ์ดังกล่าวส่งผลให้ตัวเลขเงินเฟ้อสูงขึ้นเกินกว่าที่คาดการณ์ไว้"
"เฟดตระหนักว่าเศรษฐกิจสหรัฐอ่อนแอลงมาก แต่ถึงกระนั้น กิจกรรมทางเศรษฐกิจในไตรมาสสองของปีนี้ยังคงขยายตัวได้ดี ซึ่งสะท้อนให้เห็นว่าตัวเลขการใช้จ่ายผู้บริโภคและการส่งออกยังคงมีการขยายตัว อย่างไรก็ตาม ตลาดแรงงานยังคงชะลอตัวลง และตลาดการเงินยังคงอยู่ในภาวะตึงตัว เนื่องจากมีสถาบันการเงินหลายแห่งขาดสภาพคล่อง"
นอกจากนี้ คณะกรรมการเฟดยืนยันว่าจะติดตามสถานการณ์เศรษฐกิจและความคืบหน้าในตลาดการเงินอย่างใกล้ชิด พร้อมระบุว่าเฟดจะใช้นโยบายที่จำเป็นเพื่อพยุงเศรษฐกิจให้ขยายตัวอย่างยั่งยืนและควบคุมเงินเฟ้อให้อยู่ในระดับที่ไม่เป็นอันตรายต่อเศรษฐกิจ
ไรอัน ลาร์สัน นักวิเคราะห์จากบริษัทโวยาเกอร์ แอสเซท เมเนจเมนท์ กล่าวว่า "การแสดงความเห็นของเฟดเป็นปัจจัยบวกสำคัญที่หนุนดัชนีดาวโจนส์พุ่งขึ้นแข็งแกร่ง แถลงการณ์ของเฟดสะท้อนให้เห็นว่าเศรษฐกิจสหรัฐยังคงขยายตัวได้ดี และการแสดงความกังวลเรื่องเงินเฟ้อก็ไม่ได้มีน้ำหนักมากไปกว่าการประชุมครั้งก่อน ผมเชื่อว่าเฟดตัดสินใจคงดอกเบี้ยไว้เพื่อพยุงเศรษฐกิจให้ฟื้นตัวขึ้นอย่างค่อยเป็นค่อยไป"
นอกจากนี้ ตลาดหุ้นนิวยอร์กยังได้รับปัจจัยบวกจากราคาน้ำมันดิบตลาด NYMEX ที่ร่วงลง 2.24 ดอลลาร์ แตะที่ระดับ 119.17 ดอลลาร์/บาร์เรล ซึ่งช่วยให้นักลงทุนคลายความกังวลเรื่องเงินเฟ้อลงได้มาก
หุ้นซิสโก ซิสเต็มส์ พุ่งขึ้น 3% หลังจากบริษัทเปิดเผยยอดขายพุ่งขึ้นเกือบ 10% ขณะที่หุ้นพร็อคเตอร์ แอนด์ แกมเบิ้ล (พีแอนด์จี) ดีดขึ้น 3.2% หลังจากบริษัทเปิดเผยกำไรทะยานขึ้น 33%
ส่วนหุ้นอาร์เชอร์ ดาเนียลส์ มิดแลนด์ ร่วงลง 6% หลังจากกำไรรายไตรมาสของบริษัทร่วงลง 6.1%
--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย รัตนา พงศ์ทวิช โทร.0-2253-5050 ต่อ 327 อีเมล์: ratana@infoquest.co.th--