ภาวะตลาดหุ้นลอนดอน: ฟุตซี่ปิดพุ่ง 134.3 จุด หลังราคาน้ำมันร่วง,ดาวโจนส์ทะยาน

          ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดพุ่งขึ้นกว่า 130 จุดเมื่อคืนนี้ (5 ส.ค.) เนื่องจากราคาน้ำมันดิบที่ร่วงลงและดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กที่พุ่งขึ้นกว่า 300 จุดได้ช่วยกระตุ้นบรรยากาศการซื้อขายให้คึกคักขึ้น ขณะที่นักลงทุนจับตาดูการประชุมธนาคารกลางอังกฤษซึ่งจะมีขึ้นในวันพฤหัสบดีนี้
          สำนักข่าวธอมสัน ไฟแนนเชียลรายงานว่า ดัชนี FTSE 100 พุ่งขึ้น 134.3 จุด หรือ 2.52% ปิดที่ 5,454.5 จุด หลังจากเคลื่อนตัวในช่วง 5,299.7-5,454.5 จุด
          จิมมี ยาเตส นักวิเคราะห์จากบริษัทซีเอ็มซี มาร์เก็ตส์ กล่าวว่า บรรยากาศการซื้อขายในตลาดหุ้นลอนดอนเป็นไปอย่างคึกคัก เพราะได้รับแรงหนุนจากดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กที่ทะยานขึ้นกว่า 300 จุด หลังจากราคาน้ำมันดิบตลาด NYMEX ร่วงลงต่ำกว่าระดับ 120 ดอลลาร์/บาร์เรล รวมทั้งธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ที่ยังคงมีมุมมองที่เป็นบวกต่อแนวโน้มการขยายตัวของเศรษฐกิจสหรัฐ
          การที่เฟดตัดสินใจคงอัตราดอกเบี้ยประเภทระยะสั้นไว้ที่ 2% ช่วยหนุนหุ้นกลุ่มประกันดีดตัวขึ้น โดยหุ้นลีกัล แอนด์ เจนเนอรัล พุ่งขึ้น 18 เพนซ์ ปิดที่ 109 เพนซ์ หุ้นสแตนดาร์ด ไลฟ์ ดีดขึ้น 21 เพนซ์ ปิดที่ 225 เพนซ์ และหุ้นเฟรนด์ โพรวิเดนท์ พุ่งขึ้น 7 เพนซ์ ปิดที่ 92 เพนซ์ โดยราคาหุ้นลีกัล แอนด์ เจนเนอรัล ได้รับแรงหนุนจากผลประกอบการที่แข็งแกร่งเกินคาดและการที่นักวิเคราะห์ของยูบีเอสปรับเพิ่มน้ำหนักความน่าลงทุน
          ส่วนหุ้นกลุ่มธนาคารพุ่งขึ้นเช่นกัน โดยหุ้นธนาคารสแตนดาร์ด ชาร์เตอร์ด พุ่งขึ้น 119 เพนซ์ ปิดที่ 1542 เพนซ์ หลังจากธนาคารเปิดเผยกำไรครึ่งปีแรกเพิ่มขึ้นเกินคาด 31% หุ้นธนาคารบาร์เคลย์สดีดขึ้น 30 เพนซ์ ปิดที่ 370 เพนซ์ จากข่าวที่ว่าธนาคารสวิส รี ตกลงเข้าซื้อธุรกิจประกันชีวิตของบาร์เคลย์ส เป็นวงเงินมูลค่า 753 ล้านปอนด์
          นอกจากนี้ หุ้นกลุ่มค้าปลีกดีดตัวขึ้น โดยหุ้น Next พุ่งขึ้น 72 เพนซ์ ปิดที่ 1057 เพนซ์ และหุ้นคิงฟิสเชอร์ทะยานขึ้น 11 เพนซ์ ปิดที่ 134 เพนซ์
          นักลงทุนจับตาดูการประชุมธนาคารกลางอังกฤษซึ่งจะมีขึ้นในวันพฤหัสบดีที่ 7 ส.ค.นี้ โดยนักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดว่าธนาคารกลางจะตรึงดอกเบี้ยไว้ที่ 5.00% เนื่องจากธนาคารกลางมีความกังวลเกี่ยวกับเศรษฐกิจชะลอตัว มากกว่าความกังวลเรื่องเงินเฟ้อที่สูงกว่าเป้าหมาย