ตลาดหุ้นเอเชียปรับฐานขึ้นวันแรกในรอบ 4 วัน หลังราคาน้ำมันร่วง,ดาวโจนส์พุ่ง

          ตลาดหุ้นในภูมิภาคเอเชียปรับฐานขึ้นเป็นวันแรกในรอบ 4 วันทำการในวันนี้ หลังจากราคาน้ำมันดิบตลาด NYMEX ร่วงลงอย่างหนักเมื่อคืนนี้ ซึ่งทำให้เกิดกระแสคาดการณ์ว่าราคาน้ำมันที่ปรับตัวลดลงจะทำให้ตัวเลขเงินเฟ้อลดลง และกระตุ้นตัวเลขการใช้จ่ายผู้บริโภคให้สูงขึ้นด้วย นอกจากนี้ ตลาดหุ้นเอเชียยังได้รับปัจจัยหนุจากดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กที่ปิดทะยานขึ้นกว่า 300 จุด หลังจากธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ประกาศตรึงดอกเบี้ยและแสดงความคิดเห็นที่เป็นบวกต่อแนวโน้มการขยายตัวของเศรษฐกิจสหรัฐ 
          ดัชนีนิกเกอินิกเกอิตลาดหุ้นโตเกียวปิดตลาดเช้าพุ่งขึ้น 287.24 จุด หรือ 2.2% แตะ 13,201.90 จุด หลังจากทะยานขึ้นแตะระดับสูงสุดในระหว่างวันที่ 13,217.05 จุด ขณะที่ดัชนีคอมโพสิตตลาดหุ้นเกาหลีใต้เปิดทะยานขึ้น 2.01% แตะที่ระดับ 1,566.67 จุด ส่วนดัชนีเซี่ยงไฮ้คอมโพสิตปิดตลาดเช้าพุ่งขึ้น 49.67 จุด หรือ 1.85% แตะระดับ 2,740.41 จุด
          เคนจิ เซคิยูกิ นักวิเคราะห์จากบริษัทมิตซูบิชิ ยูเอฟเจ กล่าวว่า ตลาดหุ้นเอเชียขานรับราคาน้ำมันดิบตลาด NYMEX ที่ร่วงลง 2.24 ดอลลาร์ ปิดที่ 119.17 ดอลลาร์/บาร์เรล ซึ่งเป็นระดับปิดต่ำสุดนับตั้งแต่วันที่ 2 พ.ค.และดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กที่ทะยานขึ้น 331.62 จุด 2.94% ปิดที่ 11,615.77 จุดเมื่อคืนนี้
          การร่วงลงของราคาน้ำมันดิบช่วยหนุนหุ้นกลุ่มบริษัทรถยนต์และผู้ผลิตสินค้าอิเล็กทรอนิกพุ่งขึ้น อาทิ หุ้นโตโยต้า มอเตอร์ ซึ่งเป็นบริษัทผลิตรถยนต์รายใหญ่สุดของญี่ปุ่น และหุ้นซัมซุง อิเล็กทรอนิก ขณะที่หุ้นโซนี่ดีดตัวขึ้นแข็งแกร่งสุดในรอบ 2 สัปดาห์ หลังจากบริษัทประกาศแผนเข้าซื้อบริษัทเบอร์เทลส์แมน เอจี 
          ส่วนตลาดหุ้นฮ่องกงปิดทำการช่วงเช้านี้ หลังจากสำนักงานอุตุนิยมวิทยาฮ่องกงออกแถลงการณ์เตือนว่า พายุโซนร้อน"คัมมุริ" ทวีความรุนแรงขึ้นจนถึงระดับที่ 8 แล้ว และคาดว่าจะพัดเข้าสู่ฮ่องกงภายในช่วงเที่ยงวันนี้ ทั้งนี้ ตลาดหุ้นฮ่องกงอาจจะเปิดให้มีการซื้อขายในช่วงบ่ายหากพายุคัมมุริลดระดับความรุนแรงลงภายในเวลา 12.00 น.ตามเวลาท้องถิ่น สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงาน