นายธนานันทน์ วิไลลักษณ์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บมจ.สามารถ ไอ-โมบาย (SIM) ปรับเป้าหมายรายได้ปี 51 ลงเหลือ 1.5 หมื่นล้านบาทใกล้เคียงปีก่อน จากเดิมตั้งเป้าไว้ 2 หมื่นล้านบาท เนื่องจากบริษัทได้ปรับกลยุทธทางธุรกิจให้สอดคล้องกับภาวะเศรษฐกิจด้วยการปรับลดราคาจำหน่ายต่อเครื่องลดลง โดยยังคงเป้ายอดขายไว้ที่ 5 ล้านเครื่อง
"ภาวะเศรษฐกิจทำให้ผู้บริโภคเลือกซื้อเครื่องโทรศัพท์มือถือในราคาถูกลง มีการใช้จ่ายระมัดระวังมากขึ้น จากภาวะเศรษฐกิจชะลอตัวและค่าครองชีพสูงขึ้น"นายธนานันทน์ กล่าว
นายธนานันทน์ กล่าวว่า ราคาขายโทรศัพท์มือถือของบริษัทเฉลี่ยต่อเครื่องปรับลดลงเหลือประมาณ 3,000-4,000 บาท/เครื่อง จากเดิม 6,000-7,000 บาท/เครื่อง แต่อัตรากำไรขั้นต้นคาดว่าปีนี้จะไม่ต่ำกว่า 10% ใกล้เคียงกับปีก่อน เพราะการเปิดตัวโทรศัพท์มือถือรุ่นใหม่จะได้มาร์จิ้นสูง
ในครึ่งปีหลังบริษัทมีแผนการตลาดที่จะเปิดตัวโทรศัพท์มือถือไอ-โมบายรุ่นใหม่ 6-7 รุ่น โดยเน้นรุ่นที่สามารถดูทีวีได้ หลังจากวันนี้ที่ได้เปิดตัวรุ่น ไอ-โมบาย ทีวี 626 และจะเปิดตัวโทรศัพท์มือถือทีสามารถดูทีวีอีก 3 รุ่น รวมทั้ง บริษัทจะเน้นทำการตลาดในต่างประเทศมากขึ้น โดยเฉพาะอินโดนีเซียที่ตลาดโทรศัพท์มือถือกำลังบูมมาก
"หลังจากที่ตลาดอินโดนีเซียประสบความสำเร็จ เราเลยปรับเป้าหมายหันไปเน้นขายที่ต่างประเทศมากขึ้น โดยตั้งเป้ายอดขายมือถือเพิ่มเป็น 2.5 ล้านเครื่องจากเดิม 2 ล้านเครื่อง และปรับเป้ายอดขายในประเทศลดลงเหลอื 2.5 ล้านเครื่องจากเดิม 3 ล้านเครื่อง"นายธนานันทน์ กล่าว
ทั้งนี้ในครึ่งปีหลัง บริษัทจะใช้งบการตลาดจำนวน 150-200 ล้านบาทเพื่อโปรโมทโทรศัพท์มือถือรุ่นใหม่ และเน้นทำการตลาดกลุ่มเป้าหมายอายุไม่เกิน 30 ปี เนื่องจากกลุ่มดังกล่าวมีแนวโน้มเปลี่ยนเครื่องโทรศัพท์มือถือบ่อยกว่ากลุ่มอื่น
ปัจจุบัน ส่วนแบ่งตลาดของไอ-โมบาย อยู่ที่ 25-27% รองจาก "โนเกีย" แต่หากคิดจากตลาดโทรศัพท์มือถือราคาเครื่องที่ระดับ 3,000-4,000 บาทแล้ว ไอ-โมบาย จะมีส่วนแบ่งตลาดเป็นอันดับหนึ่ง
ส่วนภาพรวมโทรศัพท์มือถือในปีนี้ นายธนานันทน์ คาดว่าจะมียอดขายเครื่องใหม่อยู่ที่ 8 ล้านเครื่อง น่าจะใกล้เคียงกับปีก่อน เพราะผู้บริโภคมีการใช้จ่ายน้อยลง
--อินโฟเควสท์ โดย สารภี สายะเวส/เสาวลักษณ์/ศศิธร โทร.0-2253-5050 ต่อ 345 อีเมล์: sasithorn@infoquest.co.th--