ตลาดหุ้นไทยพุ่งแรงกว่า 4% ในช่วงบ่าย หลังทะลุแนวรับสำคัญ โดยมีแรงซื้อในกลุ่มพลังงาน ธนาคาร อสังหาฯ หลังวานนี้ต่างชาติเริ่มกลับมาซื้อเป็นวันแรก จากที่ผ่านมามีการขายสุทธิต่อเนื่องมาตั้งแต่ พ.ค. 51 คิดเป็นเม็ดเงินเกือบ 9 หมื่นล้านบาท
เมื่อเวลา 15.57 น. ดัชนี SET อยู่ที่ 703.71 จุดเพิ่มขึ้น 27.36 จุด (+4.05%) มูลค่าซื้อขายหนาแน่นกว่า 2.2 หมื่นล้านบาท
ตลาดหุ้นไทยช่วงบ่ายทะลุ 700 จุดแล้วหลังจากเคลื่อนผ่านระดับ 682 จุดมาได้อย่างแข็งแกร่ง โดยเปิดตลาดภาคบ่ายบวกถึง 3% แล้วจากแรงซื้อต่างชาติที่กลับเข้ามาอย่างหนาแน่น โดยเฉพาะกลุ่มพลังงาน และแบงก์ จากที่ได้เทขายออกไปอย่างต่อเนื่องก่อนหน้านี้ เนื่องจากบรรยากาศการลงทุนที่ดีขึ้น จากปัจจัยราคาน้ำมันที่ปรับลดลง ทำให้แรงกดดันเงินเฟ้อ และการปรับขึ้นดอกเบี้ยลดลงด้วย
ประกอบกับ กรณีที่มีข่าวลือว่าภริยาอดีตนายกรัฐมนตรีเดินทางลี้ภัยไปประเทศจีน ทำให้นักลงทุนบางส่วนมองว่าบรรยากาศการเมืองอาจจะดีขึ้น
นายพงษ์พันธ์ อภิญญากุล ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.กิมเอ็ง (ประเทศไทย) กล่าวว่า ตลาดหุ้นบ่ายนี้น่าจะมาจากนักลงทุนต่างชาติ buy back นำโดยกลุ่มพลังงาน ธนาคาร เพราะที่ผ่านมาตลาดหุ้นไทยถูกขายไปค่อนข้างเยอะ นอกจากนี้ยังเป็นการเก็งงบฯไตรมาส 2 และมีเรื่องน้ำมันหรือความเสี่ยงทางเงินเฟ้อที่ลง ก็จะเป็นผลดีกับตลาดเรามากพอสมควร ขณะที่ commodity ลงเราก็จะได้เปรียบเล็กน้อย
"ที่ผ่านมาต่างประเทศขายเยอะมากและดอลลาร์ค่อนข้างอ่อนเมื่อเปรียบเทียบกับบ้านเราที่ค่อนข้างมีเสถียรภาพ การเมืองถึงจุดที่สบายๆ ไม่ได้ลำบากมากเหมือนสัปดาห์ที่ผ่านๆมา ปัจจัยทางด้านเศรษฐกิจทางด้านราคาหุ้นก็เด่นชัด คือดีขึ้นเพราะบ้านเราถูกกดทับด้วยการเมืองมาเรื่อยๆ ทำให้ดัชนีต่ำกว่าความเป็นจริง บางทีคนอื่นขึ้นเราก็ลง เมื่อถึงจุดสบายๆขึ้นมาเราก็อาจจะ outperform คนอื่นก็ได้" นายพงษ์พันธ์ กล่าว
อย่างไรก็ตาม บทวิเคราะห์ บล.ฟินันซ่า บ่ายวันนี้ ยังตั้งข้อสังเกตประเด็นคือการเข้าซื้อของนักลงทุนต่างชาติครั้งนี้จริงหรือหลอก และจะยาวนานขนาดไหน โดยเชื่อว่าครั้งนี้น่าจะเป็นแค่การ"เล่นรอบ" เพราะ SET ลงมาค่อนข้างแรง และ ซื้อเพื่อรอรับปันผลระหว่างกาล เช่น เครือ PTT จ่าย Interim DPS ทุกตัว ล่าสุด PTTEP เตรียมขึ้น XD วันพุธหน้า เพื่อรับปันผลระหว่างกาล 2.86 บาท ยกเว้น PTTAR กับ BCP ที่จ่ายปีละครั้ง
ทั้งนี้ความเสี่ยงยังทั้งเรื่องการเมืองและการฟื้นตัวของเศรษฐกิจสหรัฐฯยังคงมีอยู่ สำหรับการเมืองภายในประเทศยังมีอีกหลายเรื่องให้ต้องติดตามโดยเฉพาะการยื่นญัตติเพื่อแก้ไขรัฐธรรมนูญ ซึ่งตามข่าวคาดว่าจะเป็นวันที่ 18-19 ส.ค.นี้ ทั้งนี้กลุ่มพันธมิตรฯต้องป้อมค้านหัวชนฝา ส่วนสถานการณ์เศรษฐกิจของสหรัฐก็ยังอยู่ในช่วงลูกผีลูกคน เพราะ ADB เพิ่งหั่น GDP ปีนี้ของ US ลงจาก 1.9% เหลือ 1.5% ส่วนปีหน้าก็เตื้องเล็กน้อยเป็น 1.6% เพราะฉะนั้นต้องใจเย็นๆ ควรรอซื้อตอนลง โดยเฉพาะบริเวณแนวรับหลักแถวๆ 660 จุด
--อินโฟเควสท์ โดย จำเนียร พรทวีทรัพย์/รัชดา/ศศิธร โทร.0-2253-5050 ต่อ 345 อีเมล์: sasithorn@infoquest.co.th--