ภาวะตลาดหุ้นลอนดอน: ฟุตซี่ปิดลบ 8.6 จุดหลังดาวโจนส์ดิ่ง,ราคาน้ำมันพุ่ง

          ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดลบเมื่อคืนนี้ (7 ส.ค.) เพราะได้รับแรงกดดันจากการร่วงลงของตลาดหุ้นนิวยอร์ก และราคาน้ำมันดิบที่พุ่งขึ้นกว่า 1 ดอลลาร์ ส่วนการประกาศตรึงอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางอังกฤษแทบจะไม่ได้ส่งผลกระทบต่อตลาด
          สำนักข่าวธอมสัน ไฟแนนเชียลรายงานว่า ดัชนี FTSE 100 ปิดลบ 8.6 จุด หรือ 0.16% แตะระดับ 5,477.5 จุดหลังจากเคลื่อนตัวในช่วง 5,450.9-5,539.3 จุด
          ริชาร์ด ฮันเตอร์ นักวิเคราะห์จากบริษัทฮาร์เกรฟ แลนส์ดาวน์ ในกรุงลอนดอน กล่าวว่า "ภาวะการซื้อขายในตลาดหุ้นลอนดอนซบเซาลงเมื่อดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กร่วงลงและราคาน้ำมันดิบในตลาดโลกทะยานขึ้น นอกจากนี้ ตลาดแทบจะไม่ได้รับผลกระทบจากการที่ธนาคารกลางอังกฤษตัดสินใจตรึงดอกเบี้ยในการประชุมเมื่อวานนี้ด้วย อย่างไรก็ตาม การที่หุ้นกลุ่มเหมืองแร่ปรับตัวขึ้นได้ช่วยพยุงดัชนี FTSE 100 ไม่ให้ร่วงลงมากนัก และช่วยให้นักลงทุนคลายความวิตกกังวลเกี่ยวกับสถานการณ์ในอุตสาหกรรมเหมืองแร่"
          หุ้นยูโรเซียน เนเชอรัล รีซอสเซส ในกลุ่มเหมืองแร่ทะยานขึ้นแข็งแกร่งถึง 100 เพนซ์ ปิดที่ 1117 เพนซ์ หุ้นอันโตฟากัสต้าดีดขึ้น 24 เพนซ์ ปิดที่ 557 เพนซ์ และหุ้นเวแดนตา รีซอสเซส พุ่งขึ้น 28 เพนซ์ ปิดที่ 1856 เพนซ์
          แม้การพุ่งขึ้นของราคาน้ำมันดิบในตลาดโลกส่งผลให้บรรยากาศการซื้อขายซบเซาลง แต่ได้ช่วยพยุงหุ้นกลุ่มบริษัทพลังงานดีดตัวขึ้น โดยหุ้นบีพีปิดบวก 11 เพนซ์ แตะที่ 532 เพนซ์ หุ้นรอยัล ดัทช์ เชลล์ ปิดบวก 6 เพนซ์ แตะที่ 1749 เพนซ์ และหุ้นบีจี ปิดพุ่ง 36 เพนซ์ แตะที่ 1106 เพนซ์
          ธนาคารกลางอังกฤษประกาศคงอัตราดอกเบี้ยที่ 5.00% ในการประชุมเมื่อวานนี้ เนื่องจากความกังวลเกี่ยวกับเศรษฐกิจขาลงยังคงมีพอๆกับความวิตกเรื่องเงินเฟ้อที่สูงกว่าเป้าหมาย ซึ่งการตรึงดอกเบี้ยเป็นเดือนที่ 4 ติดต่อกันในครั้งนี้เป็นไปตามการคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ส่วนใหญ่ แม้ว่าในสัปดาห์นี้ได้มีการเปิดเผยข้อมูลที่แสดงให้เห็นว่าตลาดที่อยู่อาศัยและความเชื่อมั่นผู้บริโภคชะลอตัวลงอย่างมากก็ตาม