ภาวะตลาดหุ้นโตเกียว: นิกเกอิร่วง 158.96 จุดเช้านี้ หลังดาวโจนส์ดิ่ง,ราคาน้ำมันพุ่ง

          ดัชนีนิกเกอิตลาดหุ้นโตเกียวร่วงลงกว่า 150 จุดในช่วงเช้านี้ หลังจากดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กดิ่งลงอย่างหนักเมื่อคืน ซึ่งเป็นผลมาจากรายงานการขาดทุนของบริษัทบริษัทอเมริกัน อินเตอร์เนชันแนล กรุ๊ป (AIG) รวมทั้งราคาน้ำมันดิบที่พุ่งขึ้น และตัวเลขว่างงานของสหรัฐที่เพิ่มขึ้นเกินคาด
          สำนักข่าวธอมสัน ไฟแนนเชียลรายงานว่า ดัชนีนิกเกอิร่วงลง 158.96 จุด หรือ 1.2% แตะที่ 12,966.03 จุดช่วงเช้านี้
          กระทรวงแรงงานสหรัฐรายงานว่า จำนวนชาวสหรัฐที่ขอเข้ารับสวัสดิการในระหว่างว่างงาน พุ่งขึ้น 7,000 คน แตะระดับ 455,000 คนเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนมี.ค.ปี 2545 และสูงกว่าที่นักวิเคราะห์ในตลาดวอลล์สตรีทคาดว่าจะอยู่ที่ 430,000 คน โดยกระทรวงแรงงานระบุว่า ตัวเลขว่างงานพุ่งขึ้นอย่างรุนแรงหลังจากบริษัทเจนเนอรัล มอเตอร์ส (จีเอ็ม) และสตาร์บัค ประกาศเลิกจ้างพนักงานจำนวนมาก
          เอียน สตีเฟน นักวิเคราะห์จากบริษัท High Frequency Economics กล่าวว่า "ตัวเลขว่างงานที่สูงเกินคาดสะท้อนให้เห็นว่า ตลาดแรงงานสหรัฐยังคงอ่อนแอ และมีแนวโน้มที่จะซบเซาลงอีก"
          บรรยากาศการซื้อขายในตลาดซบเซาลงหลังจาก AIG ซึ่งเป็นบริษัทประกันรายใหญ่อันดับ 1 ของโลก รายงานตัวเลขขาดทุนประจำไตรมาสสองที่ 5.36 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือ 2.06 ดอลลาร์ต่อหุ้น เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อนหน้านี้ที่ 4.28 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือ 1.64 ดอลลาร์ต่อหุ้น เนื่องจากวิกฤตการณ์ด้านสินเชื่อที่ทำให้บริษัทต้องปรับลดมูลค่าของตราสารประกันความเสี่ยงกรณีผิดนัดชำระหนี้ (CDS) เป็นวงเงินประมาณ 5.6 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ
          นอกจากนี้ ตลาดหุ้นโตเกียวยังได้รับแรงกดดันจากราคาน้ำมันดิบตลาด NYMEX ที่พุ่งขึ้น 1.44 ดอลลาร์ ปิดที่ 120.02 ดอลลาร์/บาร์เรลเมื่อคืนนี้ หลังจากกลุ่มกบฏชาวเคิร์ดได้ลอบวางระเบิดที่ท่อส่งน้ำมันที่เชื่อมผ่านระหว่างเมืองบาคู ทบีซิลี และเซย์ฮาน ซึ่งตั้งอยู่ทางตะวันออกของตุรกี ทั้งนี้ แรงระเบิดทำให้เกิดไฟไหม้อย่างรุนแรง และคาดกันว่าจะต้องปิดท่อน้ำมันสายนี้ 1-2 สัปดาห์ อีกทั้งส่งผลให้บริษัท บีพี ต้องระงับการลำเลียงน้ำมันชั่วคราวและประกาศภาวะสุดวิสัย (force majeure) เพื่อให้บริษัทเป็นอิสระจากข้อบังคับทางกฏหมาย