ภาวะตลาดหุ้นไทยแนวโน้มดัชนีเช้าปรับลง ตามดาวโจนส์ร่วง ต่างชาติขาย sentiment เป็นลบ

         นายอนุพนธ์ ศรีอาจ ผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายวิจัย บล.บีฟิท กล่าวว่า แนวโน้มตลาดหุ้นเช้านี้มีโอกาสลดลง เมื่อวานขึ้นแรงจากที่คาดหวังว่าต่างชาติซื้อแต่ปรากฎว่าต่างชาติซื้อในช่วงเช้าและช่วงบ่ายมีการขายออกมาท้ายวันตัวเลขเป็นขายสุทธิอาจจะมีผล sentiment ด้านลบ และเมื่อคืนตลาดหุ้นสหรัฐลดลง 200 กว่าจุด น่าจะส่งผลกับตลาดหุ้นในภูมิภาคด้วย ปัจจัยภายนอกถือว่ากลับมาเป็นลบ
          ปัจจัยภายในยังไม่มีอะไรทางบวกการเมืองเหมือนเดิม แต่ที่ลือกันเรื่องที่พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี และคุณหญิงพจมาน ชินวัตร ลี้ภัยออกนอกประเทศ เห็นว่าต้องรอดูวันจันทร์ที่ 11 ส.ค.ที่จะมารายงานตัวต่อศาล ซึ่งคดียังไม่ถึงที่สุดก็ต้องสู้ไปตามช่องทางไปก่อน
          ราคาน้ำมันกลับขึ้นมาเล็กน้อยยังไม่ได้เป็นปัจจัยบวกอะไรสำหรับหุ้นพลังงานตัวที่ลงตามน้ำมันไปก่อนหน้านี้เพียงแต่หุ้นพลังงานโดยรวมรอดูผลประกอบการที่คาดว่าจะออกมาแข็งแกร่งเป็นส่วนใหญ่ 
          "ในเชิงพื้นฐานหุ้นพลังงานมีปัจจัยหนุนในเรื่องของผลประกอบการที่รออยู่ข้างหน้าซึ่งส่วนใหญ่ก็อาจจะรับรู้กันไปแล้ว แต่ถ้าจะปรับลงก็ไม่ได้ถึงขั้นที่จะลงแรง" นายอนุพนธ์ กล่าว 
          แนวรับจิตวิทยา 700 จุด ถัดลงไป 695 จุด แนวต้าน 710-715 จุด 
ประเด็นของการพิจารณาการลงทุน :  
          - ตลาดหุ้นนิวยอร์คเมื่อวานนี้(7 ส.ค.) ดัชนีดาวโจนส์ ปิดที่ 11,431.43 จุด ลดลง 224.64 จุด(-1.93%) ดัชนีเอสแอนด์พี 500 ปิดที่ 1,266.07 จุด ลดลง 23.12 จุด(-1.79%) และดัชนีแนสแด็ก ปิดที่ 2,355.73 จุด ลดลง 22.64 จุด (-0.95%)  
          - นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิ 835.36 ล้านบาทเมื่อวานนี้
          - ราคาน้ำมันดิบส่งมอบเดือน ก.ย.ในตลาดไนเม็กซ์ปิดทำการเมื่อวานนี้ที่ 120.02 ดอลลาร์/บาร์เรล เพิ่มขึ้น 1.44 ดอลลาร์ 
          - แบงก์ชาติประกาศขอแค่มีอิสระในการใช้เครื่องมือดำเนินนโยบายการเงิน ไม่ขัดหากว่าเป้าหมายนโยบายเศรษฐกิจต้องสอดคล้องกับรัฐบาล ชี้ปรับขึ้นดอกเบี้ยเป้าหมายไม่หยุดแค่เงินเฟ้อแต่หวังผลการขยายตัวเศรษฐกิจระยะยาว ด้าน 'สุชาติ' ชี้บ้านเมืองมีปัญหาต้องหยุดขึ้นดอกเบี้ย ระบุหากนโยบายการเงินและการคลังมีความขัดแย้ง ฝ่ายหนึ่งต้องออก หรือให้แบงก์ชาติมาจากการเลือกตั้ง
          - สมาคมนักวิเคราะห์หลักทรัพย์ คาดว่าดัชนีตลาดหลักทรัพย์ ณ ปลายปี 2551 จะอยู่ที่ 828 จุด ซึ่งต่ำกว่าคาดการณ์ครั้งก่อนที่ 927 จุด โดยคาดว่าจุดต่ำสุดของดัชนี SET ในปีนี้จะอยู่ที่ 628 จุด
          - หอการค้าไทย มองขั้นแย่สุดการเมืองวุ่นถึงขั้นปฏิวัติศก.ปีนี้ก็ยังโต 4.5-5.5%, ปี 52 โต 5.5-6.5% เงื่อนไขการเมืองนิ่ง-ลงทุนเมกะโปรเจ็คต์
          -ทีดีอาร์ไอหนุนรัฐเปิดเสรีการประมูล เลิกปิดกั้นบริษัทต่างชาติแข่งลดงบฯจัดซื้อจัดจ้าง 3 พันล้านบาท
          -นายไชยา สะสมทรัพย์ รมว.พาณิชย์ เผยจะเข้าพบนายสมัคร สุนทรเวช นายกรัฐมนตรี ในวันที่ 11 ส.ค.นี้ เพื่อขอนำเรื่องข้าวกลับมาอยู่ในความดูแลของกระทรวงพาณิชย์ทั้งหมด เพื่อให้เกิดความคล่องตัวในการบริหารจัดการ และต้องการให้นายกรัฐมนตรียุบรวม 3 คณะกรรมการข้าวให้เป็นคณะกรรมการเดียว โดยมีตนเองหรือคนในกระทรวงพาณิชย์เป็นระธาน                    
          - ก.พาณิชย์ ให้ปรับขึ้นราคาผลิตภัณฑ์นมได้ตั้งแต่ 1.14-23.10% หรือขึ้นตั้งแต่กล่องละ 1.00-3.75 บาท แต่น้ำมันปาล์มส่อเค้าอดปรับ
          - รมว.คมนาคม ระบุแอร์พอร์ตเรลลิงค์เสร็จช้าทำงบบาน 1 พันลบ.พร้อมเปิดมิ.ย.52