NNCL เผยฮอนด้าขอทบทวนแผนซื้อที่ดิน/ยอดขาย Q2 ต่ำกว่า Q1 ทั้งปียังมีลุ้น

ข่าวหุ้น-การเงิน Friday August 8, 2008 11:00 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

          บมจ.นวนคร เผยค่ายรถยนต์ฮอนด้ายังไม่สรุปซื้อที่ดินที่โคราช เหตุเปลี่ยนผู้บริหารใหม่ ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้ยอดขายที่ดินไตรมาส 2/51 ออกมาต่ำกว่าไตรมาส 1/51 และคาดทั้งปีคงจะใกล้เคียงปีก่อนที่ขายได้ราว 500-600 ล้านบาท เนื่องจากสถานการณ์การเมืองในประเทศทำให้นักลงทุนชะลอการลงทุน แต่บริษัทมีรายได้ในส่วนของค่าบริการสาธารณูปโภคและกำไรเพิ่มขึ้นหนุน นอกจากนี้ยังอยู่ระหว่างเจรจาซื้อขายที่ดินล็อตใหญ่ 2-3 แปลงหากขายได้อาจทำให้สถานการณ์เปลี่ยนไป
นายนิพิฐ อรุณวงษ์ ณ อยุธยา กรรมการผู้จัดการ NNCL) เปิดเผยกับ"อินโฟเควทส์"ถึงความคืบหน้าการเจรจาขายที่ดินล็อตใหญ่ 60-90 ไร่ในเขตอุตสาหกรรมนวนคร จ.นครราชสีมา(โคราช) ให้ค่ายรถยนต์ฮอนด้าว่า เดิมทางฮอนด้าจะให้คำตอบภายในสิ้นเดือนก.ค.ที่ผ่านมา แต่ปรากฎว่าทางฮอนด้ามีการเปลี่ยนกรรมการผู้จัดการใหม่จากญี่ปุ่น ซึ่งได้ขอทบทวนเรื่องดังกล่าวก่อน
"แต่ทางญี่ปุ่นที่เข้ามาดูก็ค่อนข้างจะพอใจที่ดินของเราอยู่แล้ว และจากที่ได้คุยกับทางสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (BOI) ก็บอกว่ายังสนใจแต่คงต้องรอ MD คนใหม่ของฮอนด้าฯจะว่าอย่างไร ส่วนจะได้ข้อสรุปเมื่อไร ยังไม่ทราบต้องรอ MD ฮอนด้าคนใหม่"นายนิพิฐ กล่าว
สำหรับในไตรมาส 2/51 นี้ ยอมรับว่า ยอดขายที่ดินคงออกมาไม่ค่อยดี และมีรายได้จากการขายที่ดินลดลง ซึ่งอาจจะเป็นผลประกอบการช่วงที่ต่ำสุดของปีนี้ แต่เชื่อว่ายอดขายน่าจะฟื้นตัวขึ้นในช่วงไตรมาส 3/51 และ ไตรมาส 4/51
"มีขายที่ดินได้บ้าง เช่น ขายให้ บมจ.โออิชิ กรุ๊ป (OISHI) และขายได้อีกไม่กี่ราย แต่จะไปเริ่มทำสัญญากันอยู่ในไตรมาส 3 นี้จึงคิดว่าไตรมาส 3-4 /51 ยอดขายที่ดินน่าจะดีกว่าเยอะ แต่ไตรมาส 2/51 คงจะแย่ที่สุด" นายนิพิฐ กล่าว
อนึ่ง ไตรมาส 1/51 มีกำไรสุทธิ 86.75 ล้านบาท
นายนิพิฐ กล่าวว่า ในปีนี้บริษัทยอมรับว่ายอดขายที่ดินคงจะต่ำกว่าปีก่อนที่มียอดขาย 500-600 ล้านบาท เพราะดูแล้วสถานการณ์บ้านเมืองทั่วไป ทำให้นักลงทุนต่างชาติจะค่อนข้างชะลอการตัดสินใจพอสมควร แต่ก็ยังพอมีลูกค้าที่อยู่ระหว่างเริ่มเจรจา 2-3 แปลงและเป็นล็อตใหญ่ หากสามารถสรุปการตัดสินใจซื้อที่ดินในปีนี้ก็อาจจะทำให้สถานการณ์เปลี่ยนไป
อย่างไรก็ตาม หากรวมลูกค้ารายใหญ่ 2-3 รายนี้ ยอดขายจะถึง 500-600 ล้านบาทหรือไม่ก็ยังไม่แน่ แต่ลูกค้ารายใหญ่แต่ละรายก็น่าจะสร้างยอดขายได้ประมาณ 60-100 ล้านบาท
ลูกค้าส่วนใหญ่จะมีทั้งที่นวนคร(ปทุมธานี)ซึ่งเป็นผู้ประกอบการจากสหรัฐทำเกี่ยวกับวงจรอิเลคทรอนิกส์ที่มาซัพพอร์ตทางผู้ผลิตรายใหญ่ในนวนคร และที่ทำอุปกรณ์เกี่ยวกับด้านการบิน รวมทั้งโรงงานผลิตขนาดใหญ่
"ตอนนี้ยอดขายที่ดินมีทั้งที่ค่อนข้าง confirm แล้ว และ high potential อยู่หลายราย แต่ก็ต้องดูก่อนว่าลูกค้ารายใหญ่ๆ ที่เป็นบิ๊กล็อตจะตกลงอย่างไร ถ้า conservative ปีนี้ยอดขายในด้านที่ดินน่าจะลดลงจากปีก่อน แต่เรายังโชคดีว่ารายได้ในส่วนของค่าบริการสาธารณูปโภคเพิ่มขึ้นและกำไรเพิ่มขึ้นในส่วนนั้นทำให้ผลประกอบการปีนี้ก็ยังโอเคอยู่"นายนิพิฐ กล่าว
อนึ่ง ปี 50 บริษัทมีรายได้รวมอยู่ที่ 1,148 ล้านบาท โดยรายได้จะมาจากค่าบริการสาธารณูปโภค 50% และรายได้จากการขายที่ดิน 50% ซึ่งจะมาจากเขตส่งเสริมอุตสาหกรรม นวนคร 2 แห่ง คือ เขตอุตสาหกรรม นวนครปทุมธานี ซึ่งปัจจุบันมีเนื้อที่มากกว่า 5,000 ไร่ และเขตอุตสาหกรรม นวนคร นครราชสีมา(โคราช)ปัจจุบันมีเนื้อที่ทั้งสิ้นประมาณ 2,000 ไร่
ส่วนโครงการ"เดอะ นวไพรเวซี่"ในนวนคร ปทุมธานี เป็นศูนย์การค้าและห้องพักอาศัยให้เช่ามูลค่า 1,973.82 ล้านบาท เปิดตัวไปเรียบร้อยแล้ว กำลังเริ่มก่อสร้าง ล็อตแรกที่เปิดให้จองก็เต็มหมดแล้ว

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ