(เพิ่มเติม1) RATCH ทบทวนแผนลงทุนระยะยาว 3 หมื่นลบ.หลังโรงไฟฟ้าลาว-เขมรส่อเค้าเลื่อน

ข่าวหุ้น-การเงิน Friday August 8, 2008 15:07 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

          บมจ.ผลิตไฟฟ้าราชบุรีโฮลดิ้ง(RATCH) เตรียมทบทวนแผนลงทุนระยะยาวช่วงปี 50-54 ในช่วงกลางเดือน ส.ค.นี้ หลังจากโครงการลงทุนโรงไฟฟ้าหลายโครงการในประเทศเพื่อนบ้านทั้งลาวและกัมพูชาส่อเค้าว่าอาจจะต้องเลื่อนออกไป ซึ่งอาจจะทำให้บริษัทใช้งบลงทุนไม่ถึง 3 หมื่นล้านบาทตามที่วางแผนไว้ 
นายณรงค์ สีตสุวรรณ กรรมการผู้จัดการ RATCH กล่าวว่า โครงการลงทุนหลายโครงการเริ่มมีความไม่แน่นอน โดยเฉพาะในประเทศลาว ซึ่งได้แก่ โรงไฟฟ้าน้ำงึม 3 และ โรงไฟฟ้าหงสา เนื่องจากทางรัฐบาลลาวกำลังเจรจาราคาค่าไฟฟ้าที่จะขายให้กับการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย(กฟผ.)ในอัตราใหม่ ตามต้นทุนที่เพิ่มสูงขึ้นประมาณ 25-30% ซึ่งอาจจะทำให้โครงการเหล่านี้ต้องเลื่อนออกไปราว 1 ปี โดยจะแล้วเสร็จภายในปี 57 จากเดิมกำหนดไว้ในปี 56
ส่วนโรงไฟฟ้าเกาะกงที่กัมพูชานั้น หลังเกิดข้อพิพาทกรณีปราสาทพระวิหารทำให้ความสัมพันธ์ไทยและกัมพูชาเกิดปัญหา ได้ส่งผลกระทบถึงการเจรจาร่วมทุนที่จะต้องหยุดชะงักลงไป เพื่อรอให้บรรยากาศความสัมพันธ์ระหว่างสองประเทศดีขึ้นก่อนจึงจะกลับมาเจรจากันใหม่ ทั้งนี้เดิมมีแผนจะเซ็นเอ็มโอยูในโครงการนี้ภายในปี 51
"คงต้องรอให้ฟ้าเปิด เราก็ไม่รู้เหมือนกันว่าจะได้ทำต่อเมือ่ไหร่ อีก 10 เราก็ยังรออยู่ เราก็หาแหล่งอื่นเอาไว้ด้วย" นายณรงค์ กล่าว
ทั้งนี้ โรงไฟฟ้าเกาะกง มีกำลังผลิต 3,660 เมกะวัตต์ มีผู้สนใจร่วมพัฒนาโครงการ 3-4 ราย ก็จะเจรจาแบ่งสัดส่วนกัน แต่ทุกอย่างก็ต้องชะงักไป RATCH มีกำลังการผลิตตามสัดส่วนร่วมกับพันธมิตร 70%
ส่วนโรงไฟฟ้าน้ำงึม 3 มีกำลังผลิต 440 เมกะวัตต์ ซึ่งขณะนี้เตรียมจัดตั้งบริษัท น้ำงึม 3 เพาเวอร์ จำกัด ร่วมกับพันธมิตรคือ บมจ.เอ็ม ดี เอ็กซ์ ลาว จำกัด ในเครือ บมจ.เอ็ม อี เอ็กซ์(MDX) และ มารูเบนี คอร์ปอเรชั่น โดย RATCH จะถือหุ้น 25% ของทุนจดทะเบียนเบื้องต้นประมาณ 9 ล้านเหรียญสหรัฐ
การที่โครงการลงทุนต่างๆ ต้องเลื่อนออกไปอาจจะส่งผลกระทบกับประมาณการรายได้ของบริษัทในปี 58 บ้าง อย่างไรก็ตาม บริษัทยังมีมุมมองว่าประเทศลาวยังเป็นแหล่งที่บริษัทจะสามารถแสวงหาโอกาสเข้าไปลงทุนได้อีกมาก ซึ่งแหล่งใหญ่ๆ ในลาวที่สามารถตั้งโรงไฟฟ้าได้มีอยู่ถึงประมาณ 30-40 แห่ง นอกจากนี้ ก็ยังมองแหล่งอื่นในพม่า และประเทศอื่น
สำหรับโรงไฟฟ้าน้ำบาก กำลังการผลิต 140 เมกะวัตต์ฺ อยู่ระหว่างการศึกษาโครงการ คาดว่าจะได้ข้อสรุปการศึกษาในปลายปีนี้ และจะสามารถเสนอค่าไฟฟ้ากับกฟผ. ในต้นปีหน้า ขณะที่โครงการโรงไฟฟ้าเซเปียน เซน้ำน้อย เพิ่งจะเสนอค่าไฟฟ้าตามต้นทุนใหม่
ส่วนโครงการโรงไฟฟ้าน้ำงึม 2 มีกำลังการผลิต 615 เมกะวัตต์ มีความคืบหน้าก่อสร้าง 57.2% คาดว่าจะสามารถเดินเครื่องเชิงพาณิชย์ได้ทันตามกำหนดในปี 56
*จ่ายปันผลระหว่างกาลรอเข้าบอร์ด 18 ส.ค.
นายณรงค์ กล่าวว่า ในวันที่ 18 ส.ค.นี้ คณะกรรมการบริษัทจะพิจารณาจ่ายเงินปันผลระหว่างกาล และคาดว่าอัตราจ่ายเเงินปันผลจะไม่ต่ำกว่าปีก่อนในงวดเดียวกัน ที่จ่ายในอัตราหุ้นละ 1.00 บาท เพราะนโนบายของบริษัท ต้องการรักษาอัตราการจ่ายเงินปันผลให้สม่ำเสมอ และจะเป็นลักษณะค่อยเพิ่มขึ้น
สำหรับผลประกอบการของ RATCH คาดว่าในช่วงครึ่งปีหลังน่าจะดีกว่าครึ่งปีแรก เนื่องจากไม่มีแผนปิดซ่อมบำรุงใหญ่ และจะมีรายได้จากโรงไฟฟ้าราชบุรีพาวเวอร์(RPCL) ที่เริ่มดำเนินการหน่วยผลิตที่ 2 กำลังผลิต 700 เมกะวัตต์ ตั้งแต่ มิ.ย.51 ที่ผ่านมา ขณะที่ทั้งปีคาดว่ารายได้น่าจะเป็นไปตามเป้าหมาย และกำไรก็น่าจะเติบโตราว 10% จากปีก่อน
"ถ้าคิดตามมาตรฐานบัีญชีใหม่ รายได้เราจะโตไม่ถึง 10% ก็คิดว่าอาจไม่ถึง 5% แต่กำไรโตมากกว่ารายได้ เพราะจะเอาเฉพาะกำไรของบริษัทราชบุรีพาวเวอร์มารวม"นายณรงค์ กล่าว
สำหรับ โรงไฟฟ้าราชบุรีพาวเวอร์ที่ถือหุ้น นายณรงค์ คาดว่าปีหน้าบริษัทจะมีรายได้เต็มปี ได้ประมาณ 600-700 ล้านบาท จากปีนี้ จะมีราายได้ 400-500 ล้านบาท แต่ก็ยังมีความเสี่ยงเรื่องอัตราแลกเปลี่ยน

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ