ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดเพิ่มขึ้นเมื่อวานนี้ (11 ส.ค.) เนื่องจากได้รับปัจจัยหนุนจากหุ้นกลุ่มแบงค์ ราคาน้ำมันดิบที่อ่อนตัวลง และดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กที่ปรับตัวขึ้นมาปิดในแดนบวก
สำนักข่าวธอมสัน ไฟแนนเชียลรายงานว่า ดัชนี FTSE 100 บวกขึ้น 52.6 จุด ปิดที่ 5,541.8 จุด
ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์บวก 48.03 จุด หรือ 0.41% ปิดที่ 11,782.35 จุด ขณะที่ดัชนี S&P 500 ปรับตัวขึ้น 9.00 จุด หรือ 0.69% ปิดที่ 1,305.32 จุด และดัชนี Nasdaq บวก 25.85 จุด หรือ 1.07% ปิดที่ 2,439.95 จุด
ราคาน้ำมันดิบในตลาด NYMEX ร่วงลง 75 เซนต์ มาปิดที่ 114.45 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล หลังจากที่เคยร่วงลงมาอยู่ที่ 112.72 ดอลลาร์ ซึ่งเป็นระดับต่ำที่สุดนับตั้งแต่ต้นเดือนพ.ค.
หุ้นโรยัล แบงค์ ออฟ สก็อตแลนด์ ปิดสูงขึ้น 8-1/2 เพนซ์ ปิดที่ 249 เพนซ์ หลังจากที่ไฟแนนเชียล ไทมส์ได้รายงานว่า มีบริษัท 3 รายคือ อพอลโล แบล็คสโตน จีเอสโอ แคปิตอล และทีพีจี สนใจซื้อ discounted loans สูงถึง 8 พันล้านดอลลาร์
ส่วนหุ้นแบงค์อื่นที่ปรับตัวขึ้นได้แก่ หุ้นลอยด์ส ทีเอสบี บวก 12-3/4เพนซ์ ปิดที่ 330-3/4 เพนซ์ และหุ้นบาร์เคลย์ส บวก 13 เพนซ์ ปิดที่ 379-1/2 เพนซ์
อย่างไรก็ดี หุ้นกลุ่มเหมืองปรับตัวลงจากแรงขายทำกำไร โดยหุ้นคาซัคไมส์ ตกลง 14 เพนซ์ ปิดที่ 1,234 เพนซ์ หุ้นเอ็กซ์สตราต้า ตกลง 40 เพนซ์ ปิดที่ 2,950 เพนซ์ และหุ้นริโอ ทินโต ร่วง 95 เพนซ์ ปิดที่ 4,590 เพนซ์
--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย สุนิตา พรรณรักษา โทร.0-2253-5050 ต่อ 315 อีเมล์: sunita@infoquest.co.th--