ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดลบเมื่อคืนนี้ (12 ส.ค.) เพราะได้รับผลกระทบจากการร่วงลงของดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์ก หลังจากเจพีมอร์แกน เชส แอนด์ โค ซึ่งเป็นวาณิชธนกิจยักษ์ใหญ่ของสหรัฐ เปิดเผยตัวเลขขาดทุนรายไตรมาส
สำนักข่าวธอมสัน ไฟแนนเชียลรายงานว่า ดัชนี FTSE 100 ปิดลบ 7.3 จุด หรือ 0.13% แตะที่ 5,534.5 จุด หลังจากเคลื่อนตัวในช่วง 5,491.3-5,569.2 จุด
ทิม ฮิวจ์ นักวิเคราะห์จากบริษัทซีเอ็มซี มาร์เก็ต กล่าวว่า "ตลาดหุ้นลอนดอนได้รับแรงกดดันจากการร่วงลงของดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์ก เราคาดว่าแนวรับของดัชนี FTSE 100 จะอยู่ที่ 5,500 จุด"
บรรยากาศการซื้อขายในตลาดหุ้นลอนดอนซบเซาลงหลังจากดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กร่วงลงกว่า 100 จุด ซึ่งเป็นผลมาจากเจพีมอร์แกน เชส เปิดเผยตัวเลขขาดทุนรายไตรมาส 1.5 พันล้านดอลลาร์ ซึ่งเป็นผลมาจากการตั้งสำรองหนี้สูญและการปรับลดมูลค่าสินทรัพย์ทางบัญชี ส่งผลให้ราคาหุ้นเจพีมอร์แกน ร่วงลงกว่า 9%
นอกจากนี้ ตลาดหุ้นลอนดอนยังได้รับแรงกดดันจากรายงานของสำนักงานสถิติแห่งชาติอังกฤษที่ระบุว่า ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ซึ่งเป็นดัชนีชี้วัดเงินเฟ้อ พุ่งขึ้น 4.4% ในเดือนก.ค. จากเดือนมิ.ย.ที่ระดับ 3.8% ซึ่งขยายตัวขึ้นเป็นสองเท่าจากเป้าหมายที่รัฐบาลวางไว้ที่ 2%
ทั้งนี้ หุ้นกลุ่มเหมืองแร่ร่วงลงตามราคาโลหะในตลาดโลก โดยหุ้นคาซัคมิส ดิ่งลง 68 เพนซ์ ปิดที่ 1166 เพนซ์ หุ้นอีเอ็นอาร์ซี ดิ่งลง 72 เพนซ์ ปิดที่ 989 เพนซ์ หุ้นเฟอร์เร็กซ์โป ร่วงลง 11 เพนซ์ ปิดที่ 235 เพนซ์
ส่วนหุ้นกลุ่มธนาคารปรับตัวผันผวนหลังจากเจพีมอร์แกน และธนาคารยูบีเอสของสวิตเซอร์แลนด์ เปิดเผยตัวเลขขาดทุน โดยหุ้นธนาคารบาร์เคลย์ส ร่วงลง 0.3% หุ้นธนาคารรอยัล แบงก์ ออฟ สก็อตแลนด์ ลดลง 0.9% หุ้นธนาคาร HBOS ร่วงลง 1.2% และหุ้นธนาคารลอยด์ส ทีเอสบีร่วงลง 1.4 % ส่วนหุ้นธนาคารสแตนดาร์ด ชาร์เตอร์ดดิ่งลง 6.8% แตะระดับ 1,490 เพนซ์ หลังจากซิตี้กรุ๊ปปรับลดอันดับความน่าลงทุนของหุ้นดังกล่าวลงสู่ระดับ "sel"l จากเดิมที่ระดับ "hold"
--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย รัตนา พงศ์ทวิช โทร.0-2253-5050 ต่อ 327 อีเมล์: ratana@infoquest.co.th--