SABINA เผยอยู่ระหว่างเจรจาลูกค้าใหม่หลายรายคาดชัดเจน Q3/51

          นายบุญชัย ปัณฑุรอัมพร ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.ซาบีน่า(SABINA) เปิดเผยว่า บริษัทอยู่ระหว่างการเจรจารับออเดอร์ใหม่จากลูกค้าหลายราย คาดว่าจะมีความชัดเจนภายในไตรมาส 3/2551 นี้ 
          และสำหรับช่วงครึ่งปีหลังของปีนี้ บริษัทฯมั่นใจว่าผลประกอบการจะเป็นไปตามเป้าหมายที่วางไว้ โดยมีรายได้ไม่ต่ำกว่า 2.2 พันล้านบาท จากการปรับกลยุทธ์รุกการขายภายในประเทศภายใต้แบรนด์ซาบีน่ามากขึ้น ขณะที่ตลาดต่างประเทศยังคงเน้นขยายตลาดยุโรป เช่น อังกฤษ ฝรั่งเศส
          นายบุญชัย กล่าวว่า ในครึ่งปีหลังบริษัทฯ ยังมีแผนในการเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ ๆ ภายใต้แบรนด์ซาบีน่าอย่างต่อเนื่อง และบริษัทฯมีแผนเปิดสาขาซาบีน่าช็อปให้ครบ 5 สาขา โดยปัจจุบันเปิดไปแล้ว 4 สาขา และคาดว่าบริษัทฯจะมีส่วนแบ่งทางการตลาดเพิ่มขึ้นอย่างแน่นอน
          "ครึ่งปีหลังเรายังมั่นใจว่าจะเติบโตต่อเนื่องจากการรุกตลาดภายในประเทศ โดยผ่านช่องทางการประชาสัมพันธ์เพื่อให้เข้าถึงกลุ่มลูกค้ามากขึ้นจากงบการตลาดที่ยังเหลืออีกกว่า 30 ล้านบาท จากครึ่งปีแรกที่ใช้ไปแล้ว 10 ล้านบาท ประกอบกับมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ 6 เดือนของภาครัฐ และทิศทางราคาน้ำมันที่เริ่มชะลอตัวลงจะเป็นผลดีต่อความเชื่อมั่นของผู้บริโภค" นายบุญชัย กล่าว
          สำหรับกำไรไตรมาส 2/51 และครึ่งปีแรกของบริษัทฯ ที่ปรับตัวเพิ่มขึ้นอย่างก้าวกระโดดนั้น เป็นผลมาจากการทยอยปรับเพิ่มสัดส่วนการขายภายในประเทศโดยใช้แบรนด์ของซาบีน่าเอง ซึ่งมีอัตราการทำกำไรขั้นต้นสูงกว่าในตลาดต่างประเทศที่ผลิตตามออร์เดอร์ของลูกค้า โดยเฉพาะในตลาดสหรัฐอเมริกานั้น หลังจากที่บริษัทเห็นแนวโน้มว่าไม่สามารถจะขยายได้ทั้งยอดขายและอัตรากำไรขั้นต้นจึงได้หันมาขยายตลาดในยุโรปและตลาดในประเทศแทน
          “จะเห็นว่าถึงแม้รายได้ของเราจะลดลง แต่กำไรกลับเพิ่มขึ้นเพราะเรากลับมาเน้นตลาดภายในประเทศซึ่งมีมาร์จิ้นที่ดีกว่า โดยไตรมาส 2 นี้ บริษัทมีสัดส่วนส่งออกอยู่ที่ 42% และอีก 58%เป็นการขายในประเทศ"นายบุญชัย กล่าว
          ผลประกอบการไตรมาส 2/51 มีรายได้รวม 460.8 ล้านบาท ขณะที่กำไรสุทธิอยู่ที่ 47.54ล้านบาท เพิ่มขึ้น 394% จากงวดเดียวกันของปีที่แล้วซึ่งบริษัทฯมีกำไรสุทธิ 9.6 ล้านบาท  ส่วนงวด 6 เดือนแรก(มกราคม-มิถุนายน 2551) มีรายได้รวม 941.5 ล้านบาท ขณะที่กำไรสุทธิอยู่ที่ 103 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 42 ล้านบาท หรือ 69% เมื่อเทียบกับปีที่แล้วซึ่งบริษัทฯ มีกำไรสุทธิ 61 ล้านบาท