QH ใช้ 1.5 พันลบ.ซื้อที่ดินพัฒนาโครงการ, ดันรายได้ปี 53แตะ 1.8หมื่นลบ.

ข่าวหุ้น-การเงิน Wednesday August 13, 2008 12:12 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

          นางสุวรรณา พุทธประสาท กรรมการ บมจ. ควอลิตี้เฮ้าส์ (QH) เปิดเผยว่า บริษัทได้ซื้อที่ดินเพื่อพัฒนาโครงการในปีหน้าแล้ว รวมเม็ดเงิน 1.5 พันล้านบาท โดยคาดว่าจะมีการเปิดโครงการใหม่ราว 9-13 โครงการ
นอกจากนี้บริษัทมีแผนจะทยอยลดหนี้ และ D/E ซึ่งเื่ชื่อว่าในปีนี้ น่าจะอยู่ที่ 1.2 เท่า และปีหน้าเหลือ 1 เท่า ถึงแม้จะแผนการขยายสินทรัพย์เข้าไปในกองทุนอสังหาริมทรัพย์จะยังไม่เห็น เพราะปัจจุบันบริษัทมีการนำหุ้นกู้ออกมาขายในเดือน ก.ย. และยังมีวอแรนต์ที่ใกล้ครบกำหนดการใช้สิทธิในเดือน ก.ย.เช่นกัน ทำให้สามารถนำเงินดังกล่าวมาลดหนี้และ D/E ลงด้วย
"บริืษัทจะพยายามบริหารต้นทุนทางการเงินให้ปรับตัวลดลง ซึ่งหากการออกกองทุนอสังหาฯ หากผลตอบแทนไม่ดี ก็ไม่รู้จะออกไปทำไม ขณะที่ต้นทุนดอกเบี้ยบริษัทก็อยู่ในระดับต่ำ ดังนั้นยังไม่จำเป็นต้องรีบขยายกองทุนอสังหาฯในตอนนี้"นางสุวรรณา กล่าว
นางสุวรรณา กล่าวว่า บริษัทมีแผนเปิดโครงการคอนโดมิเนียมในครึ่งปีหลัง 2-3 โครงการย่านสาทร และหลังสวน ซึ่งจะสร้างรายได้เข้ามาในปีหน้าบางส่วน แต่จะไปรับรู้รายได้เต็มที่ในปี 53 ประมาณ 4 พันล้านบาท จะส่งผลให้ปี 53 บริษัทตั้งเป้ารายได้รวม 1.8 หมื่นล้านบาท โดยรายได้ที่เหลือมาจากบ้านเดี่ยวและทาวน์เฮ้าส์
ขณะที่ปี 52 เชื่อว่าจะเติบโตต่อเนื่องจากปี 51 ที่ 15% หรือมีรายได้ราว 1.25 หมื่นล้านบาท เนื่องจากความต้องการบ้านยังมีอัตราสูง ประกอบกับการที่บริษัทหันมาเจาะตลาดกลุ่มลูกค้าระดับกลาง ราคา 3-5 ล้านบาท ทำให้ยอดขายปรับตัวดีขึ้น รวมถึงบริษัทจะพยายามเพิ่มสัดส่วนที่มาจากบ้านระดับกลาง จากแบรนด์"คาซ่าวิลล์"ให้มากขึ้นเป็น 50% จากการที่บริษัทได้มีการทยอยเปิดจากที่ดีมานด์ในระดับดังกล่าวมีจำนวนมาก ขณะที่ผู้ประกอบการที่เคยสร้างสินค้าระดับราคาดังกล่าวเปลี่ยนไปรุกตลาดคอนโดฯแทน ซึ่งเป้าหมายดังกล่าวคงจะเห็นปีหน้า อีกทั้งยังเป็นการกระจายความเสี่ยงภายใต้เศรษฐิกจอีกด้วย
นางสุวรรณา กล่าวว่า บริษัทคงจะไม่มีการลงทุนเพิ่มในช่วง 3-4 ปีนี้ในการพัฒนาโครงการเซอร์วิส อพาร์ทเม้นท์ หรือ ออฟฟิศให้เช่้า เนื่องจากสภาพเศรษฐกิจและการเมืองที่ไม่นิ่งส่งผลให้อัตราการเช่าโดยเฉพาะผู้เช่าชาวต่างประเทศลดลง รวมถึงการปรับราคาให้เช่าทำได้ยาก ขณะที่อัตราการเติบโตของการขายทั้งในส่วนของบ้านเดี่ยว ทาวน์เฮ้าส์ คอนโดฯ มีอัตราการเติบโตมากขึ้น

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ