นายอัศนี ชันทอง กรรมการผู้จัดการ บมจ. กระเบื้องหลังคาตราเพชร (DRT) กล่าวว่า บริษัทฯ มั่นใจว่าผลประกอบการในครึ่งปีหลังจะปรับตัวเพิ่มขึ้นได้อย่างต่อเนื่อง หลังจากสถานการณ์การเมืองในประเทศเริ่มนิ่ง แนวโน้มราคาน้ำมันชะลอตัวลง ทำให้ผู้ประกอบการก่อสร้างมีความมั่นใจในการลงทุนมากขึ้น
"คาดว่าผลการดำเนินงานทั้งปี ยังคงเป็นไปตามเป้าหมายที่วางไว้ ขณะเดียวกัน บริษัทฯ ยังมีนโยบายจ่ายปันผลปีละ 2 ครั้ง ได้เหมือนที่ผ่านๆ มา" นายอัศนี กล่าว
DRT ประกาศผลการดำเนินงานในงวดครึ่งปีแรกของปี 2551 (มกราคม-มิถุนายน 2551) มีรายได้รวมจำนวน 1,511 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 11% จากงวดเดียวกันของปีก่อน ซึ่งมีรายได้รวม 1,365 ล้านบาท ขณะที่กำไรสุทธิอยู่ที่ 218 ล้านบาท ลดลง 11 ล้านบาท หรือลดลง 4.7% เมื่อเทียบกับปีที่แล้ว ซึ่งบริษัทฯ มีกำไรสุทธิ 229 ล้านบาท
“รายได้และกำไรที่ลดลงนั้น มาจากผลกระทบจากภาวะชะลอตัวทางเศรษฐกิจ และปัญหาการเมือง รวมถึงได้รับผลกระทบจากต้นทุนที่พุ่งสูงขึ้นตามราคาน้ำมัน แต่อย่างไรก็ตามกำไรในระดับดังกล่าวถือว่าอยู่ในเกณฑ์ที่ดีและน่าพอใจ เพราะว่าภายใต้การดำเนินธุรกิจท่ามกลางปัจจัยลบทั้งภาวะเศรษฐกิจ การเมืองในประเทศ และราคาน้ำมัน นั้น ถือว่าเรายังรักษาอัตราการเติบโตได้ดี” นายอัศนี กล่าว
ด้่านนายสาธิต สุดบรรทัด รองกรรมการผู้จัดการสายการขายและการตลาด DRT กล่าวว่า ในช่วงไตรมาส 2 ที่ผ่านมา ต้องยอมรับว่ากำลังซื้อในประเทศปรับตัวลดลงมาก เนื่องจากว่าเป็นช่วงโลว์ซีซั่น บวกกับมีความกังวลทางเศรษฐกิจและการเมืองเป็นหลัก แต่บริษัทฯ ยังถือว่าไม่ได้รับผลกระทบมากนัก เนื่องจากว่ามีกลุ่มลูกค้าที่หลากหลาย ทั้งฐานลูกค้าของกลุ่มผู้ประกอบการ รีสอร์ท และตัวแทนจำหน่ายรายย่อย
“ถ้าหากในช่วงครึ่งปีหลังเศรษฐกิจยังเป็นไปในลักษณะที่ผู้บริโภคชะลอการซื้อของอยู่นั้น บริษัทฯ ยังคงมั่นใจในศักยภาพและผลการดำเนินงาน โดยที่เรายังมีตลาดส่งออกเข้ามาชดเชย ซึ่งเราตั้งเป้าจะรักษาอัตราการเติบโต10% ของรายได้รวม ทั้งนี้ ล่าสุดบริษัทได้ขยายตลาดไปยังประเทศออสเตรเลีย ซึ่งได้รับการตอบรับเป็นอย่างดี และคาดว่าหากสายการผลิตที่ 9 เพื่อผลิตไม้ฝาโดยใช้เทคโนโลยีใหม่ ที่ปราศจากใยหิน ก่อสร้างแล้วเสร็จในไตรมาส 2 ปี 2553 จะทำให้ในอนาคตรายได้ส่งออกจะเติบโตอย่างก้าวกระโดด” นายสาธิต กล่าว
สำหรับแผนการดำเนินงานในครึ่งปีหลัง บริษัทฯ จะผลักดันสินค้าเข้าสู่กลุ่มงานโครงการต่างๆ มากขึ้น รวมถึงรุกขยายตลาดไปยังต่างประเทศใหม่ๆ เพิ่มขึ้น เช่น อินเดีย เกาหลี ญี่ปุ่นเวียดนาม ฟิลิปปินส์ และเมอริเชียส
นอกจากนี้ ล่าสุดบริษัทฯ ได้รับงานโครงการบ้านพฤกษาและโครงการพฤกษาวิลล์ โดยบริษัทฯ เป็นตัวแทนจัดส่งสินค้ากระเบื้องคอนกรีต CTเพชร คิดเป็นมูลค่าโครงการรวมทั้งสิ้นประมาณ 16 ล้านบาท
รวมทั้ง ยังได้รับความไว้วางใจในการใช้ผลิตภัณฑ์ของบริษัทฯ ในโครงการต่างๆ มากมาย เช่นโครงการคาซ่าวิลล์ ในเครือ บมจ. ควอลิตี้ เฮ้าส์ จำนวนทั้งสิ้น 1,400 — 1,500 หลัง คิดเป็นมูลค่าโครงการรวมทั้งสิ้นประมาณ 40 - 50 ล้านบาท โครงการบ้านเดี่ยวของแสนสิริ จำนวน 300 ยูนิต รวมมูลค่าโครงการประมาณ 15 ล้านบาท โครงการโรงเรียนนานาชาติ ภูเก็ต อินเตอร์เนชั่นแนล อคาเดมี กระเบื้องเจียระไนรูปว่าว มูลค่าโครงการประมาณ 6 ล้านบาท และโครงการรีสอร์ท ที่เขาใหญ่ ,โครงการ ศุภาลัย การ์เด้น วิลล์ และโครงการ ศุภาลัย วิลล์ ปทุมธานี
สัดส่วนรายได้หลักของ DRT นั้น ยังคงเป็นกระเบื้องไฟเบอร์ซีเมนต์ ที่มีสัดส่วนรายได้ประมาณ 65% กระเบื้องคอนกรีต 10% ไม้ฝา 15% ผลิตภัณฑ์ในกลุ่มเจียระไน 5% และอุปกรณ์ประกอบหลังคา 5%
--อินโฟเควสท์ โดย นิศารัตน์ วิเชียรศรี/รัชดา โทร.0-2253-5050 ต่อ 317 อีเมล์: rachada@infoquest.co.th--