นายปิยะ ตันธนพิพัฒน์ รักษาการผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ ฝ่ายพัฒนาการลงทุน บมจ.ยูนิคไมนิ่ง เซอร์วิสเซส (UMS) คาดว่า อัตรากำไรสุทธิในปีนี้จะปรับเพิ่มขึ้นเป็น 15-16% จากปีก่อนที่ 14.67% เนื่องจากบริษัทมีแผนจะปรับขึ้นราคาขายถ่านหินในครึ่งปีหลังอีก 2 ครั้ง เฉลี่ยครั้งละ 10% เทียบกับครึ่งปีแรกที่ปรับขึ้นราคาเฉลี่ย 5-10% ไปแล้ว
รวมถึงแนวโน้มราคาขายถ่านหินในครึ่งปีหลังจะเพิ่มขึ้นมาที่ 3.5 พันบาท/ตัน จาก 3 พันบาท/ตันในครึ่งปีแรก หรือราคาเฉลี่ยทั้งปีน่าจะอยู่ที่ 3.2 พันบาท/ตัน โดยราคาขายถ่านหินที่เพิ่มขึ้น เนื่องจากราคาในตลาดโลกมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นต่อเนื่องไปถึงปีหน้า ถึงแม้จะความผันผวนยังมีอยู่แต่คงไม่รุนแรง
นอกจากนี้ การที่บริษัทลดต้นทุนด้วยการปรับเปลี่ยนจากการใช้น้ำมันมาเป็น NGV แทนในรถจำนวน 14 คัน ช่วยให้ลดต้นทุนลงได้ถึง 30-50%
นายปิยะ ยังคาดว่าในครึ่งปีหลังปริมาณการขายจะเพิ่มขึ้น 5-10% เมื่อเทียบกับในครึ่งปีแรก เนื่องจากลูกค้ารายใหญ่กลับมาสั่งซื้ออีกครั้งหลังจากไตรมาส 2 ชะลอตัวไปเพราะได้รับผลกระทบจากราคาถ่านหิน
บริษัทยังมีแผนในการหารายได้เพิ่ม ไม่ว่าจะเป็นการแบ่งพื้นที่ที่ จ.อยุธยาให้เช่าเพิ่มเติม ซึ่งที่ผ่านมามีผู้ที่เข้ามาเจรจาแล้วและเชื่อว่าคงจะเห็นการให้เช่าในปีหน้า รวมถึงมีรายได้เพิ่มจากผู้มาเช่าท่าเทียบเรือเพื่อส่งออกสินค้าเกษตรหรือปูนเม็ด สอดคล้องกับแผนงานของบริษัทในการเพิ่มคลังและท่าเทียบเรือ โดยอยู่ระหว่างการพิจารณาสร้างคลังสินค้าเพิ่มในภาคใต้และภาคตะวันออก คาดว่าจะได้ข้อสรุปในครึ่งปีหลัง
--อินโฟเควสท์ โดย จริญยา ดำสมาน/รัชดา/ศศิธร โทร.0-2253-5050 ต่อ 345 อีเมล์: sasithorn@infoquest.co.th--