ภาวะตลาดหุ้นลอนดอน: ฟุตซี่ปิดลบ 85.9 จุดหลังดาวโจนส์ร่วง,ยอดค้าปลีกสหรัฐอ่อนแอ

ข่าวหุ้น-การเงิน Thursday August 14, 2008 08:03 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

          ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดร่วงลงเมื่อคืนนี้ (13 ส.ค.) เพราะได้รับปัจจัยลบจากการดิ่งลงของดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กและยอดค้าปลีกสหรัฐที่ร่วงลงเกินคาด นอกจากนี้ การที่ราคาน้ำมันดิบพุ่งสูงขึ้นและข้อมูลเศรษฐกิจที่ย่ำแย่ของอังกฤษ นับเป็นอีกปัจจัยที่ฉุดตลาดหุ้นลอนดอนร่วงลงด้วย 
สำนักข่าวธอมสัน ไฟแนนเชียลรายงานว่า ดัชนี FTSE 100 ปิดร่วงลง 85.9 จุด แตะระดับ 5,448.6 จุดหลังจากเคลื่อนตัว ในช่วง 5,437.1-5,534.5 จุด
แอนโทนี เกร็ช นักวิเคราะห์ด้านการตลาดจากไอจีอินเด็กซ์ กล่าวว่า การร่วงลงของดัชนีดาวโจนส์และข้อมูลเศรษฐกิจที่อ่อนแอของอังกฤษ กดดันบรรยากาศการซื้อขายในตลาดหุ้นลอนดอนซบเซาลงอย่างมาก โดยสำนักงานสถิติแห่งชาติอังกฤษเปิดเผยว่า อัตราว่างงานของอังกฤษในเดือนก.ค.ขยายตัวสูงสุดในรอบเกือบ 16 ปี และอัตราการขยายตัวของค่าจ้างก็ช้าลง เนื่องจากเศรษฐกิจชะลอตัวลงอย่างหนักจนทำให้บริษัทเอกชนต้องลดการจ้างงานและคงค่าจ้างในระดับต่ำเอาไว้
ยอดชาวอังกฤษที่ขอเข้ารับสวัสดิการในระหว่างว่างงาน เพิ่มขึ้น 20,100 คนจากเดือนมิ.ย. มาอยู่ที่ 864,700 คนในเดือนก.ค. ซึ่งถือเป็นการปรับตัวสูงขึ้นมากที่สุดนับตั้งแต่เดือนธ.ค. 2535 ขณะที่นักเศรษฐศาสตร์คาดว่า ยอดขอสวัสดิการว่างงานจะเพิ่มขึ้นเพียง 17,000 คน
นอกจากนี้ ธนาคารกลางอังกฤษได้ปรับลดคาดการณ์การขยายตัวทางเศรษฐกิจ และคาดว่าเงินเฟ้ออาจจะขยายตัวขึ้นกว่า 5% ก่อนที่จะปรับตัวลงต่ำกว่าเป้าหมายที่ 2% ในช่วง 2 ปี หากอัตราดอกเบี้ยยังอยู่ในระดับเดิม ส่วนเศรษฐกิจคาดว่าจะขยายตัวประมาณ 0.1% เมื่อเปรียบเทียบกับการคาดการณ์ก่อนหน้านี้ที่ 1%
บรรยากาศการซื้อขายซบเซาลงมากขึ้นเมื่อกระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยว่า ยอดค้าปลีกลดลง 0.1% ในเดือนก.ค. ซึ่งเป็นผลมาจากยอดค้าปลีกของดีลเลอร์รถยนต์ที่ร่วงลงอย่างหนัก และยอดค้าปลีกไม่รวมรถยนต์เพิ่มขึ้น 0.4% ในเดือนก.ค. โดยก่อนหน้านี้นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่า ยอดค้าปลีกจะลดลง 0.1% ในเดือนก.ค. หลังจากเพิ่มขึ้น 0.1 % ในเดือนมิ.ย. และยอดค้าปลีกที่ไม่รวมรถยนต์จะเพิ่มขึ้น 0.5 % ในเดือนก.ค. หลังจากเพิ่มขึ้น 0.9 % ในเดือนมิ.ย.
ทั้งนี้ หุ้นกลุ่มธนาคารดิ่งลงอย่างหนัก โดยหุ้นธนาคารบาร์เคลย์สร่วงลง 27 เพนซ์ ปิดที่ 356 เพนซ์ หุ้นธนาคารลอยด์ทีเอสบี ดิ่งลง 21 เพนซ์ ปิดที่ 309 เพนซ์ หุ้นธนาคาร HBOS ร่วงลง 24 เพนซ์ ปิดที่ 307 เพนซ์ และหุ้นรอยัล แบงค์ ออฟ สก็อตแลนด์ ลดลง 16 เพนซ์ ปิดที่ 300 เพนซ์
ส่วนหุ้นค้าปลีกดิ่งลงเช่นกัน โดยหุ้นมาร์ค แอนด์ สเปนเซอร์ ร่วงลง 30 เพนซ์ ปิดที่ 267 เพนซ์ หุ้นคิงฟิสเชอร์ร่วงลง 14 เพนซ์ ปิดที่ 125 เพนซ์ หุ้น Next ร่วงลง 90 เพนซ์ 991 เพนซ์ และหุ้นแซนบิวรี ร่วงลง 28 เพนซ์ ปิดที่ 341 เพนซ์

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ