บล.ทรีนิตี้เน้นทำรายได้ TFEX-SBLรับมือหุ้นซึม/รักษามาร์เก็ตแชร์ 2-2.5%

ข่าวหุ้น-การเงิน Thursday August 14, 2008 11:30 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

          บล.ทรีนิตี้ ในเครือ บมจ.ทรีนิตี้ วัฒนา(TNITY)หันเน้นรายได้ธุรกิจใหม่ ๆ ทั้งธุรกิจให้บริการระบบยืมและให้ยืมหลักทรัพย์(SBL Service Bureau)และตลาด TFEX รวมไปถึงการหาผลกำไรจากพอร์ตลงทุน แทนที่จะพึ่งพารายได้จากค่าคอมมิชชั่นอย่างเดียว เนื่องจากทิศทางตลาดหุ้นไทยในช่วงครึ่งหลังปีนี้(2551)ยังไม่ชัดเจนว่าจะพื้นตัวได้หรือไม่ ขณะที่เปิดทางพันธมิตรร่วม join หากตกลงผู้ถือหุ้นใหญ่ได้ 
"ตอนนี้เราก็รอ SBL และตัว future โดยเราจะต้องหันไปจากรายได้จากธุรกิจใหม่ ๆ ก็คงเตรียมพร้อมที่จะปรับเปลี่ยน ต้องหาแหล่งรายได้อื่นเข้ามา แทนที่จะเป็นรายได้จากค่าคอมมิชชั่นอย่างเดียว ก็หาจาก TFEX" นายกัมปนาท โลหเจริญวณิช กรรมการอำนวยการ บล.ทรินี้ตี้ กล่าว
นายกัมปนาท ระบุว่า ภาวะโดยรวมของตลาดหุ้นช่วงครึ่งปีหลังยังคาดเดาได้ยาก เนื่องจากขณะนี้ภาวะตลาดโลกเป็นตัวกำหนดทิศทางของทุกตลาด หากตลาดโลกฟื้นตัวเราก็จะได้ผลพวงตรงนี้ไปด้วย ซึ่งเป็นไปตามภาวะปกติที่โบรกเกอร์ต้องพึ่งพาภาวะตลาดหุ้น และครึ่งปีหลังยังมีตัวแปรที่เรากำหนดไม่ได้อีกมาก อย่างปัญหาซับไพร์มที่กระทบไปทั่วโลกจะมีผลรุนแรงจนทำให้เศรษฐกิจในสหรัฐฯแย่ลงหรือไม่
"เราก็เดาไม่ถูก มันก็เลยยังบอกไม่ได้ว่าตลาดฯครึ่งปีหลังจะดีหรือไม่ดีกว่าครึ่งปีแรก น้ำมันก็เป็นตัวแปรหนึ่ง ดอลลาร์ก็เป็นอีกตัวแปรหนึ่ง ของเราก็อาจจะมีเรื่องภาวะการเมือง ภาวะภายในประเทศ มันก็เป็นอะไรที่มันขึ้นก็ได้ ลงก็ได้นะ มันก็เลยบอกไม่ง่ายนักที่จะบอกว่ามันเป็นอย่างไร"นายกัมปนาท กล่าว
*ลุ้นคลอด Gold Future และ SBL ในเร็ว ๆ นี้
นายกัมปนาท กล่าวว่า ในช่วง 1-2 ปีที่ผ่านมา บริษัทขยับแหล่งรายได้หลักจาก Equity Market มาเป็น Future Market มากขึ้น โดยบริษัทได้เข้าไปช่วยโปรโมทสินค้าในตลาดฟิวเจอร์ให้ที่หลากหลายมากขึ้น และแนะนำให้ลูกค้าเข้ามาเล่นในตลาด Future มากขึ้น
"ตลาดฯมี Options ไปแล้ว ทีนี้ก็จะมีตัว Stock Future, Gold Future ก็จะช่วยทำให้เรามีฐานรายได้ที่แตกต่างจากการซื้อขายหุ้นปกติ"นายกัมปนาท กล่าว
นายกัมปนาท กล่าวต่อว่า "เรื่อง Gold Future ตอนนี้ก็เดินเรื่องไปทั้งหมดแล้ว ส่วนจะออกมาได้เมื่อไรยังไม่รู้ แต่เขามีอยู่ในตารางเวลานะว่าเดือนหน้าจะเปิด ตอนนี้มันไปค้างเรื่องที่ต้องแก้ประกาศของแบงก์ชาติ ที่จะเปิดให้ต่างชาติซื้อขาย Gold Future ได้ ถ้าตรงนั้นเสร็จก็ต้องไปถามทาง TFEX ว่าจะเริ่มใช้ได้เมื่อไร"
ส่วนการหารายได้จาก SBL นั้น ประกาศของคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์(ก.ล.ต.)จะมีผลบังคับ.ในเดือน พ.ย.นี้ ขณะนี้บริษัทอยู่ระหว่างการเตรียมด้านระบบรองรับ คาดว่าจะใช้ระบบที่ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย(ตลท.)ได้พัฒนาขึ้น โดยบริษัทฯจะทำหน้าที่เป็นตัวกลางให้ลูกค้าที่ต้องการยืมหลักทรัพย์ และลูกค้าที่จะให้ยืมหลักทรัพย์ อย่างไรก็ตาม ยอมรับว่า SBL ไม่ใช่ตัวที่จะสร้างรายได้ให้กับบริษัทฯได้มากนัก แต่เป็นการเอื้อให้ลูกค้ามีวอลุ่มเทรดมากขึ้น
"ถ้าหุ้นเป็นขาลง เขาก็สามารถยืมหุ้นมาขาย short ได้ ไม่งั้นหุ้นขาลงก็นั่งเฉย ๆ ก็ไม่ได้อะไร แต่รายได้จากการให้ยืม ไม่ได้เป็นรายได้หลัก แต่เป็นเค่รายได้เสริม ซึ่งรายได้หลักของบริษัทฯยังมาจากการเป็นนายหน้าค้าหลักทรัพย์ เพราะเราเป็นโบรกเกอร์ที่เป็นฐานลูกค้ารายย่อย เพียงแต่เราคงไม่มุ่งเฉพาะรายได้จากซื้อขายหุ้นอย่างเดียว เราคงจะหา product อื่นเข้ามาเสริม"นายกัมปนาท กล่าว
กรรมการอำนวยการ บล.ทรีนิตี้ กล่าวว่า โบรเกอร์หลายรายพยายามหากำไรจากพอร์ตลงทุนของตัวเองมากขึ้นในช่วงนี้ บริษัทฯเองก็เช่นกัน โดยบริษัทฯมีพอร์ต 2 ประเภท คือซื้อเพื่อการลงทุนระยะยาวและซื้อมาขายไประยะสั้นขึ้นกับภาวะตลาดฯ ซึ่งขณะนี้ยังมีกำไรจากการลงทุน
"ช่วงนี้โลกมันมีความเปลี่ยนแปลงเร็ว ก็ขึ้นอยู่กับการปรับตัวของแต่ละคน วอลุ่มเดี๋ยวมาเดี๋ยวไม่มา มันเป็นเพราะต่างประเทศเป็นส่วนใหญ่ ถ้าเขาหยุดซื้อ/ขาย วอลุ่มก็หายไป แต่ถ้ามาซื้อใหม่ขายใหม่ เราก็มีวอลุ่มเพิ่มขึ้น วอลุ่มเมืองไทยเกี่ยวกับบรรยากาศการลงทุนไทย ซึ่งช่วงนี้มันไม่ค่อยดีนัก"กรรมการอำนวยการ บล.ทรีนิตี้ กล่าว
*ตั้งเป้ารักษามาร์เก็ตแชร์ธุรกิจหลักทรัพย์ยืนที่ 2-2.5%
กรรมการอำนวยการ บล.ทรีนิตี้ กล่าวอีกว่า ธุรกิจนายหน้าซื้อขายหลักทรัพย์ยังเป็นฐานสร้างรายได้หลักให้กับบริษัท โดยในปีนี้ตั้งเป้าจะรักษาส่วนแบ่งการตลาด(มาร์เก็ตแชร์)ให้ยืนไว้ในระดับนี้ที่ 2.0-2.5% ในช่วงที่เหลือของปีนี้ท่ามกลางภาวะตลาดฯที่ยังไม่แน่นอน
"เราก็พยายามจะยืนให้ได้ตรงนี้ในภาวะตลาดฯแบบนี้ แต่ตรงนี้เราก็ไม่ได้ Focus มาก แต่ก็เป็นธุรกิจเก่าที่เราจะต้อง maintain เอาไว้ แล้วเราก็ต้องไปหาธุรกิจใหม่ ๆ อย่าง private Fund, การซื้อขายในตลาดฟิวเจอร์เป็นต้น"นายกัมปนาท กล่าว
ปัจจุบันบริษัทฯมีฐานลูกค้ารายย่อยเป็นส่วนใหญ่เกือบ 80% ที่เหลือเป็นลูกค้าสถาบันในประเทศกว่า 10% และเมื่อไรที่มีการเปิดเสรีโบรกเกอร์ เชื่อว่าบริษัทฯก็พร้อมที่จะแข่งขันโดยหารายได้จากทางอื่น และสร้างแหล่งรายได้ที่มีความหลากหลายมากขึ้น
"เราไม่มีลูกค้าต่างประเทศจะไปแข่งกับคนที่เขาเป็นต่างประเทศแล้วมาตั้งฐานในเมืองไทยคงจะแข่งด้วยไม่ง่ายหรอก เราต้องยอมรับความจริง แต่ถ้าเปิดเสรีโบรกเกอร์ เราก็ยังมีหารายได้จากทางอื่นก็ทำให้หลากหลายขึ้น อย่างมาร์เก็ตแชร์ของตลาด TFEX เรามีกว่า 10% และยังเป็นอันดับ 1 อยู่"กรรมการอำนวยการ บล.ทรีนิตี้ กล่าว
บริษัทมีแผนจะเปิดสาขา Cyber Branch ตามศูนย์การค้า จากปัจจุบันมีเพียงสาขาเต็มรูปแบบทั้งหมด 14 สาขา โดยมองประเด็นหลักที่จุดคุ้มทุนในการลงทุน ซึ่งแม้บริษัทฯจะมีธนาคารกรุงไทย(KTB)ถือหุ้นใน TNITY อยู่กว่า 19% แต่ KTB ก็ถือหุ้นโบรกเกอร์อื่นกว่า 50% ดังนั้นบริษัทฯจึงไม่อยู่ในเครือข่ายที่จะอาศัยสาขาของ KTB เพื่อเปิดสาขา Cyber Branch ได้
นายกัมปนาท กล่าวว่า ในส่วนธุรกิจวาณิชธนกิจ(IB)ในช่วงครึ่งหลังปีนี้(2551)คาดว่าจะยังเงียบเหงาอยู่ ซึ่งส่วนใหญ่งานในส่วน IB ของบริษัทฯจะเป็นในรูปของการเป็นที่ปรึกษา(advisory)มากกว่า
"ส่วน IB ช่วงนี้ก็เงียบเหงาไปพอสมควร ครึ่งปีหลังก็น่าจะยังเงียบอยู่ เราก็ทำเท่าที่ทำได้ ส่วนใหญ่จะเป็น advisory มากกว่า"
*พร้อมเปิดทางให้มีพันธมิตรใหม่
กรรมการอำนวยการ บล.ทรีนิตี้ กล่าวว่า บริษัทฯยังคงเปิดทางให้กับผู้ที่จะเข้ามาพันธมิตรของบริษัทฯอยู่เสมอ ยิ่งถ้าพันธมิตรใหม่เข้ามาแล้วมีประโยชน์ มีธุรกิจให้กับบริษัทฯได้ก็จะยิ่งดี
"เราเป็นบริษัทจดทะเบียน ถ้าใครสนใจมาซื้อ มา join กับเราได้อยู่แล้ว หรือถ้าจะดีลเป็นล็อตใหญ่ก็ต้องไปถามผู้ถือหุ้นใหญ่เดิมของบริษัทฯว่าจะขายหุ้นให้หรือเปล่า มันไม่ใช่เราเป็นคนตอบในเรื่องของการหาพันธมิตร แต่เราเปิดทางให้อยู่แล้ว เราไม่เกี่ยงอยู่แล้วถ้าใครจะมาถือหุ้นเรา ถ้ามีประโยชน์ เป็นผู้ถือหุ้นที่มีธุรกิจที่ให้เราได้ก็ยิ่งจะดี"นายกัมปนาท กล่าว

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ