(เพิ่มเติม) HMPRO ออกขายหุ้นกู้ 500-1 พันลบ.ใน Q3/51 ใช้ขยายสาขา-เป็นงบการตลาด

          บมจ.โฮม โปรดักส์ เซ็นเตอร์ (HMPRO) บริษัทมีแผนจะออกหุ้นกู้ล็อตต่อไปอีกประมาณ 500- 1 พันล้านบาทในช่วงปลายไตรมาส 3/51 เพื่อนำเงินมาใช้ในการขยายธุรกิจ ทั้งในส่วนงบการตลาดและการเปิดสาขาใหม่ ส่วนการที่บริษัทเลือกการออกหุ้นกู้เนื่องจากปัจจุบันมี D/E Ratio ที่ 0.61 เท่า ซึ่งต่ำมาก 
          ในช่วงครึ่งปีหลังบริษัทมีแผนจะเปิดสาขาเพิ่มอีก 1 แห่ง คือที่จ.ภูเก็ต ซึ่งจะเป็นสาขาที่ 2 เนื่องจากเป็นจังหวัดที่มีกำลังซื้อสูง สำหรับสาขาใหม่จะเป็นรูปแบบ standard มีพื้นที่ให้เช่ามากขึ้น และในปีหน้าบริษัทมีแผนจะขยายสาขาใหม่เพิ่มอีก 4 สาขา โดยขณะนี้มีที่ดินในมือแล้ว
          สำหรับสาขาแห่งใหม่ในจ.ภูเก็ต จะส่งผลให้สิ้นปีนี้บริษัทจะมีสาขาทั้งหมดเพิ่มขึ้นเป็น 34 แห่ง ขณะที่พื้นที่ขายจะเพิ่มเป็น 2.28 แสนตร.ม.และมีพื้นที่เช่า 3.4 หมื่นตร.ม. จากสิ้นปี 50 มีพื้นที่ขาย 2.05 แสนตร.ม.และพื้นที่เช่า 3.2 หมื่นตร.ม.
          พร้อมกันนั้น บริษัทก็จะเดินหน้ารุกกิจกรรมทางการตลาดอย่างต่อเนื่อง ซึ่งหลังจากนี้คาดว่าจะมีกิจกรรมอีกอย่างน้อยประมาณ 3 งาน เพื่อดันยอดขายในปีนี้ให้เพิ่มขึ้นตามเป้าหมายที่ 15% จากปีก่อน
           น.ส.วรรณี  จันทามงคล ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ -สายบัญชีและการเงิน HMPRO กล่าวว่า ในครึ่งปีแรกบริษัทมีอัตรากำไรขั้นต้นที่ 23.5% สูงขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่อยู่ที่ 23.0% และตั้งเป้าจะรักษาอัตรากำไรขั้นต้นในปีนี้ให้ใกล้เคียงกับในช่วงครึ่งปีแรก
          ด้านนายคุณวุฒิ  ธรรมพรหมกุล กรรมการผู้จัดการ HMPRO คาดว่า ยอดขายปีนี้จะทำได้ตามเป้าหมายที่วางไว้เติบโต 15% เนื่องจากในครึ่งปีแรกยอดขายของบริษัทเติบโตได้แล้ว 14.59% ใกล้เคียงเป้าหมายที่วางไว้แล้ว และยังคาดว่าในช่วงครึ่งปีหลังซึ่งเป็นช่วง high season น่าจะทำยอดขายได้ดีกว่าครึ่งปีแรกด้วย
          อย่างไรก็ตาม บริษัทยังไม่มีแผนในการปรับเป้าหมายรายได้ในปีนี้ โดยยังคงรักษาระดับไว้ที่ 15% เนื่องจากยังไม่มั่นใจกำลังซื้อในช่วงครึ่งปีหลัง เพราะที่ผ่านมาแม้จะมียอดลูกค้าเข้ามาใช้เพิ่มขึ้น แต่ยอดการซื้อต่อรายยังต่ำหากเทียบกับปีก่อน แต่บริษัทยังมองว่าผู้บริโภคยังคงให้ความสำคัญการซื้อสินค้าที่เกี่ยวกับบ้านและที่อยู่อาศัย ตามแนวโน้มการเติบโตของธุรกิจอสังหาริมทรัพย์
          สำหรับกลยุทธหลักๆจากนี้ไป บริษัทจะเน้นการขยายสาขาทั้งแบบ stand alone และ การเปิดสาขาภายใน Hypermarket ทั้ง BIGC, Lotus รวมทั้งปรับสินค้าและการบริหารสินค้าคงคลัง คลังสินค้าเพื่อให้สามารถควบคุมต้นทุนได้