MCOT ปรับแนวมุ่งเพิ่มบันเทิง-ละครช่วงครึ่งปีหลัง หวังดันอัตราโฆษณาพุ่ง

         นายวสันต์ ภัยหลีกลี้ กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บมจ.อสมท (MCOT) กล่าวว่า อสมท.จะเน้นการปรับรูปแบบรายการมาให้น้ำหนักกับรายการประเภทบันเทิงและละครมากขึ้น เพื่อเพิ่มอัตราโฆษณาให้ได้ตามเป้าหมายที่เฉลี่ย 85% ในปีนี้ รวมทั้งผลักดันรายได้และกำไรให้เติบโตได้ในระดับ 15-20% หลังจากที่ได้มีการปรับผังรายการบางส่วนและปรับขึ้นค่าโฆษณาไปบ้างแล้ว 
          "เชื่อว่าการปรับแนวทางเพิ่มบันเทิงมากขึ้นจะทำให้อัตราโฆษณาเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องและรายได้ค่าโฆษณาจะเพิ่มขึ้นด้วย เชื่อว่าอัตราค่าโฆษณาทั้งปีจะไม่ต่ำกว่า 85%"นายวสันต์ กล่าว  
          อสมท.จะเน้นการทำรายการบันเทิงมากขึ้น โดยจะเพิ่มสัดส่วนละครและรายการที่เกี่ยวกับบันเทิงเข้ามา ซึ่งปัจจุบันสัดส่วนรูปแบบรายการประเภทบันเทิงปรับเพิ่มขึ้นมาเป็น 32% แล้ว จากเดิมอยู่ที่ 24% และแนวโน้มในอนาคตก็จะเพิ่มมากขึ้นอีก เนื่องจากข้อกฎหมายวิทยุโทรทัศน์ในปัจจุบันเปิดทางให้บริษัทผลิตรายการบันเทิงได้ถึง 70%
          นายวสันต์ กล่าวว่า ขณะนี้ อสมท.ได้ร่วมมือกับค่ายหนังใหญ่ GTH ในเครือบมจ.จีเอ็มเอ็ม แกรมมี่(GRAMMY)ที่จะหันมารับผลิตละครเป็นครั้งแรก"เนื้อคู่ประตูถัดไป" โดยนำ พอลล่า เทย์เลอร์ มาประกบคู่ซันนี่ สุวรรณเมธานนท์ หลังจากที่โมเดิร์นไนได้กลับมาแพร่ภาพละครช่วงไพร์มไทม์เรื่องแรกคือ "อุบัติรักจากฟากฟ้า"เมื่อเร็ว ๆ นี้
          บริษัทยังคงตั้งเป้ารายได้และกำไรปีนี้เติบโตจากปีก่อน 15-20% หลังจากครึ่งปีแรกสามารถทำรายได้และกำไรเติบโตกว่าเป้าหมาย อย่างไรก็ตามในช่วงไตรมาส 3 ซึ่งเป็นช่วง low season บริษัทพยายามที่จะรักษารายได้ให้คงระดับการเจริืญเติบโต และัมั่นใจว่ารายได้จะเติบโตมากกว่างวดเดียวกันปีก่อน เนื่องจากมีรายได้จาก AF5 และรายได้จากกิจกรรมของส่วนราชการที่จะมีการเร่งเบิกจ่้ายก่อนปิดงบฯในเดือน ต.ค.51
          สำหรับรายได้จากธุรกิจทีวีน่าจะเติบโตกว่าเป้่าหมายที่ตั้งไว้ 10-20% จากปีก่อน แต่รายได้จากธุรกิจวิทยุ คงเติบโตต่ำกว่าเป้่าหมายที่คาดว่าจะมีรายได้ 960 ล้านบาท เนื่องจากบริษัทมีค่าใช้จ่ายเพิ่มขึ้นจากนำคลื่นวิทยุส่วนหนึ่งกลับมาบริหารและดำเนินการสถานีเอง โดยเฉพาะในต่างจังหวัด 53 คลื่น และต้่องบริหารเองถึุง 30 คลื่น          
          นายวสันต์ กล่าวว่า การประเมินผลการทำงานในฐานะที่เข้ามารับหน้าที่กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ MCOT โดยส่วนตัวไม่น่ามีปัญหาเพราะผลการประเมินได้ 77% ผ่านเกณฑ์ที่กำหนดไว้ 70% อย่างไรก็ตาม ครึ่งปีหลังการประเมินผลงานก็จะมีความเข้มข้นมา่กขึ้นโดยส่วนตัวพยายามมอย่างเต็มที่เพื่อสร้างรายได้และกำไรให้กับ MCOT อย่างเต็มที่
          ด้านการเจรจาปรับปรุงสัญญาสัมปทานให้ทางช่อง 3 และทรูวิชั่นส์ ยังอยู่ระหว่างการพูดคุยกัน คาดว่าจะสรุปได้ภายใน 2 เดือนข้างหน้า โดยสาระสำคัญคือการกำหนดให้รายได้ตอบแทนรัฐมีความเหมาะสม และอายุสัมปทานจะต้องสอดคล้องกับกฎหมายใหม่