นายไทยลักษณ์ ลี้ถาวร ประธานเจ้าหน้าบริหาร บมจ.ยูนิมิต เอนจิเนียริ่ง(UEC) ยอมรับว่า สถานการณ์ของบริษัทในปีนี้คงจะเป็นไปได้ค่อนข้างยากที่จะทำให้รายได้และกำไรของบริษัทเป็นไปตามเป้าหมาย เนื่องจากภาวะต้นทุนค่อนข้างผันผวน
อย่างไรก็ตาม บริษัทก็จะยังคงยึดเป้าหมายรักษามีกำไรสุทธิให้สูงกว่าปีก่อนที่มีกำไร 330 ล้านบาท และรายได้เติบโต 30% มาที่ 2.3 พันล้านาท จากปีก่อนที่มีรายได้ 1,855 ล้านบาท เนื่องจากในช่วงครึ่งปีหลังคาดว่าจะมีการส่งมอบงานได้มากขึ้นและทำให้รายได้ดีขึ้น ซึ่งขณะนี้บริษัทมีงานในมือที่รอรับรู้รายได้ในครึ่งปีหลังอีก 1 พันล้านบาท
อนึ่ง งานในมือสิ้นปี 50 มีจำนวน 2.6 พันล้านบาท โดยรับรู้รายได้ในครึ่งปีแรกแล้ว 1 พันล้านบาท
"เราจะพยายามทำกำไรสุทธิให้ไม่น้อยกว่าปีก่อน ถึงแม้มันจะยากภายใต้ต้นทุนที่ผันผวน แต่คาดว่าความผันผวนในครึ่งปีหลังลดน้อยลง ซึ่งการที่เราเพิ่มงานมีมาร์จิ้นสูงจะทำให้เราสามารถบริหารความเสี่ยงที่เกิดขึ้นได้" นายไทยลักษณ์ กล่าว
นายไทยลักษณ์ กล่าวว่า หากราคาต้นทุนปรับเพิ่มสูงไปมากกว่านี้ บริษัทก็สามารถปรับเพิ่มได้ตามราคาต้นทุน ซึ่งราคาสแตนเลส(วัตดุดิบ)คงไม่สูงแล้ว แต่วัตถุดิบประเภทคาร์บอนสตีล ยังมีแนวโน้มปรับขึ้นต่อเนื่อง อย่างไรก็ตาม บริษัทสามารถปรับขึ้นราคาได้ตามวัตถุดิบและคงจะปรับเฉพาะออเดอร์ใหม่
ทั้งนี้ ในเดือนก.ค.บริษัทได้รับออเดอร์ใหม่ จำนวน 180-200 ล้านบาท ซึ่งส่วนใหญ่เป็นงานประกอบถังแรงดันสูง ซึ่งประจวบเหมาะกับบริษัทได้สร้างโรงงานแห่งที่ 2 รองรับไว้แล้ว
ขณะเดียวกัน บริษัทจะลงทุนสร้งโรงงานแห่งที่ 3 เพื่อใช้เป็นสถานที่ประกอบถังแรงดันสูง ใช้เงินลงทุน 50 ล้านบาท จะเริ่มดำเนินการได้ภายในปีนี้ โดยโรงงานแห่งใหม่จะอยู่ใกล้มาบตาพุด ทำให้ช่วยลดต้นทุนด้านขนส่งได้ และลูกค้าส่วนใหญ่อยู่บริเวณดังกล่าวจำนวนมาก อีกทั้งยังเป็นการรองรับงานเพื่อส่งออก ซึ่งคาดว่าภายใน 3 ปี จะมีสัดส่วนจากส่งออกประมาณ 50% จาก 30%
นอกจากนี้ บริษัทจะเพิ่มสินค้าใหม่ที่มีมาร์จิ้นสูงเพื่อรองรับการขยายตัวของรายได้ที่เพิ่มขึ้น อีกทั้งยังเป็นการกระจายความเสี่ยงในการรับงาน
--อินโฟเควสท์ โดย จริญยา ดำสมาน/เสาวลักษณ์/ศศิธร โทร.0-2253-5050 ต่อ 345 อีเมล์: sasithorn@infoquest.co.th--