SAMART ไม่มั่นใจเป้ารายได้ 3 หมื่นลบ.ปีนี้ แต่เชื่อกำไรสุทธิจะสูงกว่าปีก่อน

ข่าวหุ้น-การเงิน Thursday August 14, 2008 16:23 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

          นายวัฒน์ชัย วิไลลักษณ์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บมจ.สามารถ คอร์ปอเรชั่น(SAMART)ยอมรับว่า ในปี 51 บริษัทอาจจะทำรายได้ไม่ได้ตามเป้าหมายที่วางไว้ 3 หมื่นล้านบาท เนื่องจากรายได้จากการขายเครื่องโทรศัพท์มือถือภายใต้บมจ.สามารถ ไอ-โมบาย(SIM)ปรับลดลงตามราคาจำหน่ายต่อหน่วยที่ต่ำลง 
ในครึ่งปีแรก SIM มีราคาขายเฉลี่ยต่อหน่วยในต่างประเทศอยู่ที่ 1,938 บาท/เครื่อง และในประเทศเฉลี่ยที่ 1,694 บาท/เครื่อง ซึ่งต่ำกว่าปีก่อนค่อนข้างมาก แต่การหันมาเน้นจำหน่ายเครื่องโทรศัพท์มือถือที่เป็นเฮ้าส์แบรนด์ทำให้กำไรต่อหน่วยสูงขึ้น
อย่างไรก็ตาม ในช่วงครึ่งปีหลังบริษัทพยายามผลักดันโทรศัพท์รุ่นใหม่ที่มีราคาขายต่อหน่วยสูงขึ้น โดยในเดือนส.ค.นี้จะออกแบรนด์โทรศัพท์มือถือใหม่ ไอ-โมบาย ซีรีย์ใหม่"SENSE"เพื่อจับตลาดบน โดยกำหนดราคาขายไม่ต่ำกว่า 1 หมื่นบาท/เครื่อง โดยมีแผนจะออกโทรมือถือ PDA รุ่น SENSE 80 ในราคาต่ำกว่าคู่แข่ง
"ถ้าหากตลาดมือถือเติบโต และสามารถดึงให้ราคาขายต่อเครื่องสูงขึ้น ก็จะส่งผลต่อภาพรวมรายได้ที่เติบโตขึ้น แม้รายได้จะไม่ได้ตามเป้าหมาย แต่มั่นใจว่ากำไรสุทธิปีนี้ จะโตกว่าปีก่อนที่ 348 ล้านบาท"นายวัฒน์ชัย กล่าว
*SAMTEL คาดครึ่งปีหลังชนะประมูลงานใหม่ไม่ต่ำกว่า 50% จาก 1 หมื่นลบ.
นายวัฒน์ชัย กล่าวว่า ในครึ่งปีหลัง บมจ.สามารถเทลคอม (SAMTEL) มีแผนจะเข้าประมูลงานรวมมูลค่าประมาณ 1 หมื่นล้านบาท ได้แก่ งานวางระบบของกระทรวงกลาโหม และ กระทรวงมหาดไทย , โครงการขยายโครงข่ายบรอดแบรนด์ของบมจ.ทีโอที 1 ล้านเลขหมาย ซึ่งบริษัทคาดหวังว่าจะได้งานไม่ต่ำกว่า 50%ของงานที่เข้าร่วมประมูล
อย่างไรก็ตาม ในช่วงที่ผานมาบริษัทมีงานในมืออยู่ประมาณ 3 พันล้านบาท
"งานที่จะเข้าประมูลหากได้ตามเป้าหมายที่วางไว้ ก็จะทยอยรับรู้รายได้ในปี 52 และปี 53 และ SAMTEL จะเป็นตัวรายได้หลักให้กับกลุ่ม SAMART ในช่วงครึ่งปีหลัง จากปีก่อนที่ชะลอต้วอย่างหนัก"นายวัฒน์ชัย กล่าว

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ