บมจ.วินโคสท์ อินดัสเทรียล พาร์ค(WIN) ระบุผู้บริหารปรับแผนธุรกิจปี 52 เสนอให้ที่ประชุมบอร์ดพิจารณาในวันนี้หลังจากการขายหุ้นเพิ่มทุนให้ PP จำนวน 122.58 ล้านหุ้นไม่คืบหน้า ยืนยันไม่ล้มแผนขายหุ้นเพิ่มทุนแน่ แม้ว่าภาวะตลาดอย่างนี้ทำให้ผู้ลงทุนที่สนใจขอระงับเรื่องไว้ก่อนและขอกลับไปทบทวนใหม่ แต่ยังติดต่อกันอยู่เหมือนเดิม ส่วนจะกลับมาพิจารณาใหม่อีกเมื่อไร คงต้องดูปัจจัยแวดล้อมหลายๆ ด้าน
นายนพพงษ์ อุรัจนานนท์ ผู้อำนวยการฝ่ายพัฒนาธุรกิจ WIN กล่าวกับ"อินโฟเควสท์"ว่า ยอมรับว่าการขายหุ้นเพิ่มทุนที่ต้องหยุดชะงักไปมีผลกระทบแผนการลงทุนของบริษัทบ้าง แต่ไม่มากนัก เนื่องจากแผนขายหุ้นดังกล่าวเป็นการเตรียมความพร้อมไว้สำหรับปีหน้า ซึ่งจะมีการเสนอแผนธุรกิจที่ชัดเจนต่อที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทในวันที่ 14 ส.ค.นี้
"คิดว่า 4-5 เดือนนี้น่าจะมีอะไรกระจ่างขึ้นมา ถ้าเพิ่มทุนไม่ได้ก็ต้องมาดูแนวทางอื่นว่าเราจะขยายธุรกิจอย่างไร แนวทางการขยายธุรกิจก็ต้องดำเนินการ ส่วนเรื่องการเพิ่มทุนก็เป็นการเตรียมความพร้อม เพราะเราก็มีเงินในมือคิดว่ายังดำเนินการได้ ปีหน้าคงขยายไปเรื่อยๆ" นายนพพงษ์ กล่าว
ทั้งนี้ การเพิ่มทุนเป็นการเตรียมเงินทุนเพื่อรองรับธุรกิจในอนาคต และชำระหนี้บางส่วน
*มั่นใจทำผลงานปีนี้ได้ตามเป้าหมาย
นายนพพงษ์ กล่าวว่า ผลประกอบการปีนี้ยังมั่นใจตามแผนที่เคยประกาศออกไป ซึ่งภาวะตลาดหุ้นกับธุรกิจของบริษัทแยกออกจากกัน คาดว่าบริษัทน่าจะทำรายได้ปีนี้ได้ตามประมาณการ 490-500 ล้านบาท สูงขึ้นจากปีก่อนที่มีรายได้ 100 ล้านบาท โดยเฉพาะอย่างยิ่งราคาน้ำมันที่ปรับสูงขึ้นก็ทำให้ผู้ส่งออกในนิคมอุตสาหกรรมมาบตาพุดหันมาใช้บริการด้าน Logistic มากขึ้น เพื่อประหยัดต้นทุน
"ตรงนี้จะเป็นผลดีต่อธุรกิจของเราเพราะลูกค้าหลักจะเป็นกลุ่มปตท. ปูนซิเมนต์ไทย ,ไบเออร์ไทย และกลุ่มไทยโพลีคาร์บอเนต เป็นผู้ผลิตผู้ส่งออกเม็ดพลาสติก ผลิตภัณฑ์เคมีภัณฑ์เป็นหลัก"นายนพพงษ์ กล่าว
ขณะเดียวกันบริษัทก็ยังให้บริการกับผู้ส่งออกรายเล็กและระดับกลางด้วยเช่นกัน ซึ่งการส่งออกของกลุ่มดั
กล่าวในช่วงประมาณไตรมาส 3/51 จะเป็นช่วง peak ไปจนถึงประมาณเดือนต.ค.-พ.ย. จากนั้นจะค่อย ๆ ชะลอลงในเดือนธ.ค.เพราะเข้าฤดูหนาว ซึ่งจะทำให้รายได้ในไตรมาส 3/51 เติบโตได้ดีที่สุด
นายนพพงษ์ กล่าวว่า ครึ่งปีแรกรายได้น่าจะได้ตามเป้า ถึงแม้ไตรมาส 1/51 จะขาดทุน แต่ไตรมาส 2/51 ผลประกอบการน่าจะดีขึ้น
"ปีนี้จะโชว์อะไรให้เห็น แต่การที่ขาดทุนอยู่ 100-200 ล้านบาทแล้วภายใน 3 เดือนเป็นกำไรเลย คงยังไม่ได้ แต่เรายังมั่นใจเรื่องรายได้และผลประกอบการที่เสนอผู้ถือหุ้นไปว่าจะดีขึ้นเรื่อยๆ"นายนพพงษ์ กล่าว
ทั้งนี้ ไตรมาส 1/51 ขาดทุนสุทธิ 26.31 ล้านบาท และ ไตรมาส 2/51 ขาดทุนลดลงมาที่ 18.78 ล้านบาท
*เดินหน้าธุรกิจหลัก Logistics หลัง"จักร จามิกรณ์"คุมบังเหียน
นายนพพงษ์ กล่าวว่า สำหรับนายจักร จามิกรณ์ ที่เข้ามาเป็นประธานกรรมการบริษัท เป็นเรื่องที่ความเหมาะสมเพราะนายจักรเป็นผู้ถือหุ้นรายใหญ่ 24-25% แต่นโยบายการดำเนินธุรกิจทุกอย่างในขณะนี้ยังมุ่งมั่นไปทางลอจิสติกส์
"นโยบายต่อไปในฐานะที่คุณจักรเป็นประธานบอร์ดที่จะ drive บริษัทก็คงยืดถือแนวทางเหมือนเดิม คงไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลงหรือเปลี่ยน Business เพราะเพิ่งย้ายมาเป็น Logistics ปัจจุบันสัดส่วนรายได้ Logistics 80% ที่เหลือเป็นอสังหาฯก็ยัง run เหมือนเดิม"นายนพพงษ์ กล่าว
ส่วนราคาหุ้นที่ไหลลงเรื่อยๆ เป็นเรื่องสภาพตลาด จากดัชนี 850 จุด ลงมา 600 กว่าจุดกระทบกับทุกบริษัท แต่ก็เป็นไปตามสภาวะตลาด ในแง่ราคาหุ้นทางผู้บริหารไม่ได้อะไร แต่เรามี vision คือการบริหารธุรกิจ
"WIN หลังเข้ามาเทรดใน Logistics ไม่คึกคักเหมือนช่วงก่อนหน้านี้ ผมว่าเป็น Timing มากกว่า เพราะกลับมาวันที่ 2 ก.ค.ตลาดก็เริ่มลง ถือว่าเราโชคไม่ดี ต้องรอให้คลื่นลมสงบ คราวนี้จะดูจากผลประกอบการจะสะท้อนตัวหุ้นเอง" นายนพพงษ์ กล่าว
--อินโฟเควสท์ โดย จำเนียร พรทวีทรัพย์/รัชดา/ศศิธร โทร.0-2253-5050 ต่อ 345 อีเมล์: sasithorn@infoquest.co.th--