PDI แจงกำไรวูบ เหตุราคาสังกะสีตลาดโลกร่วง 36% แร่เหมืองแม่สอดลดลง

          ดร.สุรินทร์ ตันติเจริญเกียรติ เลขานุการ บมจ.ผาแดงอินดัสทรี (PDI) ชี้แจงผลการดำเนินงานจากงบการเงินรวมในไตรมาสที่สองของปี 2551 บริษัทฯ และบริษัทย่อยมีกำไรสุทธิ 177 ล้านบาท หรือคิดเป็นกำไรสุทธิถัวเฉลี่ยต่อหุ้น 0.78 บาท เปรียบเทียบกับในช่วงเดียวกันของปี 2550 ซึ่งมีกำไรสุทธิ 290 ล้านบาท หรือคิดเป็นกำไรสุทธิถัวเฉลี่ยต่อหุ้นเท่ากับ 1.28 บาท รายได้จากการขายและบริการรวม 2,311 ล้านบาท ลดลงจากช่วงเดียวกันของปี 2550 จำนวน 864 ล้านบาท
          จากงบการเงินรวมของบริษัทฯ ในงวดหกเดือนแรกของปี 2551 บริษัทฯและบริษัทย่อยมีกำไรสุทธิ 140 ล้านบาท หรือคิดเป็นกำไรสุทธิถัวเฉลี่ยต่อหุ้น 0.62 บาท เปรียบเทียบกับในช่วงเดียวกันของปี 2550 ซึ่งมีกำไรสุทธิ 604 ล้านบาท หรือคิดเป็นกำไรสุทธิถัวเฉลี่ยต่อหุ้นเท่ากับ 2.67 บาท รายได้จากการขายและบริการรวม 4,605 ล้านบาท ลดลงจากช่วงเดียวกันของปี 2550 จำนวน 1,994 ล้านบาท
          ในช่วงครึ่งปีแรก บริษัทฯ มียอดจำหน่ายโลหะสังกะสีเพิ่มขึ้นร้อยละ 0.4 จากช่วงเดียวกันของปี 2550 เป็น 52,192 ตัน สำหรับความต้องการภายในประเทศนั้นเพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้วร้อยละ 9 ซึ่งมีผลทำให้การขายต่างประเทศลดลง 
          ราคาโลหะสังกะสีโลกลดลงอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ปีที่ผ่านมาโดยมีราคาเฉลี่ยเท่ากับ 2,272 ดอลลาร์สหรัฐต่อเมตริกตัน ในครึ่งปีแรก ของปี 2551 ลดลงจากช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมาซึ่งเฉลี่ยที่ 3,560 ดอลลาร์สหรัฐต่อเมตริกตัน หรือลดลงร้อยละ 36
          ผลประกอบการของบริษัทฯได้รับผลกระทบจากราคาโลหะสังกะสีโลกซึ่งลดลงอย่างมากในปี 2551 และการใช้แร่จากเหมืองแม่สอดในกระบวนการผลิตลดลงเนื่องจากการทำเหมืองได้อย่างจำกัดในครึ่งปีแรก