นายอดิศักดิ์ สุขุมวิทยา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เจ มาร์ท จำกัด (มหาชน) คาดว่าจะสามารถระดมทุนเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ได้ในวันที่ 16 ก.ย.51 หลังจากที่บริษัทได้ยื่นไฟลิ่งในการเสนอขายหุ้นให้กับประชาชนทั่วไป (IPO) จำนวน 75 ล้านหุ้น พาร์ 1 บาท โดยมีบล.เอเซีย พลัส เป็นที่ปรึกษาทางการเงิน
สัดส่วนการจำหน่ายหุ้น IPO แบ่งเป็นประชาชนทั่วไป 60 ล้านหุ้น ผู้มีอุปการะคุณ 7.5 ล้านหุ้น และกรรมการ พนักงาน 7.5 ล้านหุ้น เม็ดเงินที่ได้จากการระดมทุนในครั้งนี้จะนำไปใช้ในการขยายกิจการรวมทั้งนำไปชำระหนี้ระยะสั้น
"เชื่อว่าจะผ่านการอนุมัติจากสำนักงานก.ล.ต.ได้ในช่วงไตรมาส 3 นี้ซึ่งบริษัทเราถือว่ามีผลประกอบการในช่วงที่ผ่านมาเติบโตต่อเนื่องส่งผลให้รายได้รวมในปี 50 อยู่ที่ 5,897 ล้านบาท และการที่เจมาร์ทเรามีสาขาร่วม 191 สาขา ซึ่งถือว่าครอบคลุมกับความต้องการของลูกค้า" นายอดิศักดิ์ กล่าว
ในปีนี้บริษัทจะพยายามเร่งเพิ่มมาร์จินมากกว่าการสร้างยอดขายโดยจะหันไปเน้นการขายสินค้าไฮเอ็น ซึ่งขณะนี้กลุ่มลูกค้าดังกล่าวยังมีอยู่ ขณะที่ในส่วนของยอดขายในปีนี้ยังทรงตัวจากภาวะตลาดโดยรวมและการแข่งขันเรื่องราคา
ปัจจุบันวางงบฯในการซื้อหนี้ส่วนใหญ่เป็นรีเทลไฟแนนซ์ 70 กว่าล้านบาทใน 1-2 ปี และใน 3 ปีข้างหน้าจะถึง 250 ล้านบาท ซึ่งจะทำให้มาร์จินโดยรวมเพิ่มขึ้น นอกจากนี้ ยังวางแผนขยายสาขาใน 3 ปีข้างหน้างเป็น 280 สาขาจาก 230 สาขา ลงทุนเฉลี่ยแห่งละ 1.5 ล้านบาท และไอทีฟังก์ชั่นเป็น 20 สาขา จาก 7 สาขา และเจอเวนิวจาก 1 สาขาเป็น 3 สาขา
ด้านนางพรพิมล ดำรงศิริ ผู้ช่วยกรรมการผู้อำนวยการ บริษัทหลักทรัพย์ เอเซียพลัส จำกัด (มหาชน) ที่ปรึกษาทางการเงิน กล่าวว่า ในสัปดาห์หน้าจะมีการโรดโชว์กับกองทุน โดยเบื้องต้นจะมีการขายให้กับกองทุน 20-30% ส่วนที่เหลือจะเป็นนักลงทุนรายย่อยหลังจากนั้นก็จะสามารถกำหนดราคาขายหุ้นได้ในช่วงต้นเดือนก.ย.
ทั้งนี้ เชื่อว่าจากนี้ถึงกลางเดือนก.ย.ภาวะตลาดโดยรวมจะปรับตัวในทิศทางที่ดีขึ้นและไม่มีปัจจัยอะไรเข้ามากระทบซึ่งการที่หุ้นเจมาร์ทมีจำนวนน้อยจึงไม่น่าจะได้รับผลกระทบหากสภาวะตลาดมีความผันผวน
"หุ้นเจมาร์ทน่าจะเข้าเทรดได้ในวันที่ 16 ก.ย.หลังจากที่กำหนดราคาได้ในช่วงต้นเดือนก.ย.และเชื่อว่าหุ้นตัวนี้จะเป็นที่สนใจของนักลงทุนประเภทกองทุน แต่เราก็จะให้ความสำคัญกับรายย่อยก่อนเพื่อสภาพคล่องของหุ้น" นางพรพิมล กล่าว
นางพรพิมล กล่าวต่อว่า ในปีนี้บล.เอเซียพลัส คงจะหุ้น IPO เข้าตลาดเพียง 1 บริษัท คือ บมจ.เจมาร์ท จากในมือที่มีอยู่ 6-7 บริษัท เนื่องจากภาวะตลาดไม่เอื้อ อย่างไรก็ตาม ปีนี้จะมีรายได้จาก M&A เข้ามาส่วนใหญ่ และเชื่อว่ารายได้จาก IB ปีนี้จะมากกว่าปีก่อน
บมจ.เจมาร์ท ประกอบธุรกิจจัดจำหน่ายโทรศัพท์เคลื่อนที่ และติดตามเร่งรัดหนี้สินรวมถึงการบริหารหนี้ด้อยคุณภาพ โดยบริษัทฯประกอบธุรกิจจำหน่ายทั้งค้าปลีกและค้าส่งเครื่องโทรศัพท์เคลื่อนที่ และสินค้าที่เกี่ยวข้องกับโทรศัพท์เคลื่อนที่ของผู้ผลิตโทรศัพท์เคลื่อนที่หลักทุกรายและผู้ให้บริการเครือข่ายทุกระบบ
--อินโฟเควสท์ โดย จริญยา ดำสมาน/จำเนียร/รัชดา โทร.0-2253-5050 ต่อ 317 อีเมล์: rachada@infoquest.co.th--