บมจ.เอเชี่ยน พร็อพเพอร์ตี้ ดีเวลลอปเม้นท์ (AP) ปรับเพิ่มงบลงทุนซื้อที่ดินในปีนี้เป็น 3.5 พันล้านบาท จากเดิมตั้งไว้ 3 พันล้านบาท ซึ่งจะใช้รองรับการพัฒนาโครงการทั้งในแนวราบและคอนโดมิเนียมในอนาคต โดยขณะนี้บริษัทมียอดขายรอโอน(backlog) 1.8 หมื่นล้านบาท ที่จะทยอยรับรู้ไปถึงปี 53
บริษัทยังคาดว่าในปีนี้จะเติบโตได้ตามเป้าหมายที่ตั้งไว้ โดยรายได้น่าจะเติบโตในระดับ 10-15% มาที่ราว 9 พันล้านบาท ขณะที่กำไรเติบโตถึง 30% เนื่องจากอัตรากำไรขั้นต้นในปีนี้จะสูงขึ้นมาที่ 33-34% จากปีก่อนอยู่ที่ 32% และในปี 52 รายได้ก็ยังน่าจะเติบโตได้ต่อเนื่องที่ 10-15% เป็นแตะ 1 หมื่นล้านบาท ขณะที่กำไรอาจจะเติบโตเพียง 10-15% หลังจากสิ้นสุดระยะเวลามาตรการภาษีกระตุ้นอสังหาริมทรัพย์
นายอนุพงษ์ อัศวโภคิน ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร AP กล่าวว่า รายได้ของบริษัทในครึ่งปีหลังจะสูงกว่าครึ่งปีแรก แม้ว่าไตรมาส 3/51 รายได้จะต่ำกว่าไตรมาส 2/51 เนื่องจากไตรมาส 4/51 บริษัทจะมียอดโอนโครงการคอนโดมิเนียมเพิ่มขึ้นเป็น 4 โครงการ ซึ่ง 2 โครงการแรก คือ "ดิ แอดเดรส สยาม" และ "ไลฟ์ ท่าพระ"เป็นการโอนต่อเนื่องจากไตรมาส 2/51 ส่วนโครงการ"ไลฟ์ พหล 18" และ "ไลฟ์ รัชดา 36"จะเริ่มทยอยเข้ามา
สำหรับยอดจองในช่วงครึ่งปีหลังก็น่าจะสูงกว่าครึ่งปีแรก เนื่องจากบริษัทจะเปิดโครงการใหม่ 12 โครงการ มูลค่ารวม 1.7 หมื่นล้านบาท แบ่งเป็น คอนโดมิเนียม 5 โครงการ บ้านเดี่ยว 3 โครงการ และ ที่เหลือเป็นทาวน์เฮ้าส์ รวมทั้ง หากประเมินว่าเศรษฐกิจในช่วงครึ่งปีหลังที่เติบโต 4-5% ตลาดอสังหาริมทรัพย์ก็น่าจะเติบโตในทิศทางเดียวกัน
ส่วนการที่วัสดุก่อสร้างปรับลดลงตามราคาน้ำมันในขณะนี้ คงจะทำให้ผู้ประกอบการสามารถยืนราคาขายอสังหาริมทรัพย์ในช่วงครึ่งปีหลัง ซึ่งจะไม่ทำให้มาร์จิ้นดีขึ้นไปกว่านี้มากนัก แต่ทั้งปีนี้บริษัทคาดว่าจะมีมาร์จิ้นดีขึ้นเมื่อเทียบกับปีก่อน เนื่องจากในปีนี้มีสัดส่วนรายได้จากคอนโดมิเนียมเพิ่มมาเป็น 35% จาก 30% ในปีก่อน โดยโครงการคอนโดมิเนียมให้มาร์จิ้นสูงถึง 37% ขณะที่แนวราบมีมาร์จิ้นที่ 30%
"จากนี้ไป ตลาดอสังหาฯ คงไปเรื่อย ๆ เพราะตอนนี้เหลือแต่ผู้เล่นรายใหญ่ แบงก์ก็ปล่อยสินเชื่อยาก 4 เดือนหลังถ้าภาวะเศรษฐกิจยังเป็นอย่างนี้อยู่ ก็คงยังเติบโตกันไปตามภาวะเศรษฐกิจ ที่น่ากลัวคือเรื่องน้ำมันที่จะไปกระทบกับกำลังซื้อ ส่วนเรื่องการเมืองถ้าไม่เปลี่ยนบ่อยมากก็ไม่มีปัญหา แต่ถ้าบ่อยจนทำให้การลงทุนภาครัฐไม่เดินก็จะแย่"นายอนุพงษ์ กล่าว
ในปีนี้คาดว่ารายได้ของบริษัทยังเติบโตได้ตามเป้าหมาย โดยมี backlog ราว 1.8 หมื่นล้านบาทในขณะนี้ ซึ่งจะมีการรับรู้รายได้โครงการแนวราบในปีนี้ 3 พันล้านบาท ที่เหลือมาจากโครงการคอนโดมิเนียมที่จะทยอยรับรู้ตั้งแต่ปี 52-53
นายอนุพงษ์ กล่าวว่า บริษัทคาดว่ากำไรสุทธิในปีนี้คงจะเติบโตได้ 30% ส่วนหนึ่งมาจากยออดขายที่เติบโตขึ้น และรับผลดีจากมาตรการภาษีกระตุ้นอสังหาริมทรัพย์ ส่วนในปี 52 คาดว่ารายได้และกำไรจะเติบโตต่อเนื่องในระดับ 10-15% ซึ่งจะทำให้รายได้ในปีนี้สูงแตะ 1 หมื่นล้านบาท โดยจะมาจากการรับรู้โครงการคอนโดมิเนียมราว 4.0-4.5 พันล้านบาท ได้แก่ "ดิ แอดเดรส ชิดลม" "ไลฟ์ พหลโยธิน" ไลฟ์ สุทธิสาร" และ "ไลฟ์ ห้วยขวาง" ส่วนกำไรที่โตลดลงมาจากมาตรการกระตุ้นภาษีจะสิ้นสุดลงในเดือนมี.ค.52
ในระยะต่อไปบริษัทยังจะเน้นการพัฒนาโครงการคอนโดมิเนียมตามแนวรถไฟฟ้า ห่างไปจากสถานีไม่เกิน 500 เมตร ส่วนโครงการแนวราบจะอยู่ในละแวกชุมชน ซึ่งในปีหน้า AP คาดว่าจะมีโครงการในมือรวม 40 โครงการ จากปัจจุบันราว 30 โครงการ
--อินโฟเควสท์ โดย เสาวลักษณ์ อวยพร/ศศิธร/รัชดา โทร.0-2253-5050 ต่อ 317 อีเมล์: rachada@infoquest.co.th--