บมจ.อินโดรามา โพลีเมอร์ส(IRP)คาดว่า รายได้ในปี 51 จะเพิ่มขึ้นมาที่ 4.3 หมื่นล้านบาทสูงกว่าที่เคยคาดไว้ ขณะที่ในปี 52 คาดว่ารายได้จะเติบโตต่อเนื่อง 30-40% เนื่องจากปริมาณขายที่สูงขึ้นตามกำลังการผลิตที่คาดว่าในเดือน ก.ย.นี้ โรงงานในไทยจะสามารถเพิ่มกำลังผลิตได้ตามแผน
อนึ่ง ก่อนหน้านี้ IRP เคยปรับลดเป้ารายได้มาอยู่ที่ 3.5 หมื่นล้านบาท จากเดิม 3.6 หมื่นล้านบาท
นอกจากนั้น บริษัทแม่ของ IRP ในต่างประเทศยังอยู่ระหว่างเจรจาแลกหุ้นกับบริษัทแห่งหนึ่งในยุโรป ซึ่งคาดว่าหากดีลนี้สำเร็จจะส่งผลดีต่อส่วนแบ่งการตลาดของบริษัทในตลาดยุโรปด้วย
นายดีลิป กุมาร์ อากาวาล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร IRP กล่าวว่า เป้าหมายรายได้ปีนี้สูงกว่าประมาณการเดิมที่คาดว่าจะอยู่ที่ประมาณ 3.5 หมื่นล้านบาท เนื่องจากราคาขายผลิตภัณฑ์เม็ดพลาสติกยังอยู่ในระดับสูงเช่นเดียวกับน้ำมัน โดยส่วนต่างราคาขายกับนาฟทาทั้งปีคาดว่าจะใกล้เคียงกับไตรมาส 2 ที่ 243 เหรียญ/ตัน
"แม้ว่าราคาน้ำมันเริ่มปรับตัวลดลง แต่ราคาขายเม็ดพลาสติกยังคงอยู่ในระดับสูง และยังเชื่อว่าครึ่งปีหลังราคาเม็ดพลาสติกหากจะปรับลตัวลดลงก็ยังสูงกว่าปีก่อน ประกอบกับเราจะมีกำลังการผลิตใหม่อีก 5.4 หมื่นตัน/ปี ซึ่งจะเสร็จเดือนก.ย.นี้" นายดีลิป กล่าว
สำหรับปี 52 บริษัทจะมีกำลังการผลิตใหม่จากโรงงานในประเทศสหรัฐ 4.32 แสนตัน/ปี คาดว่าจะแล้วเสร็จช่วง เม.ย.52 และจะทำให้บริษัทมีกำลังการผลิตทั้งหมดเพิ่มเป็น 1.5 ล้านตันจากปีนี้ที่คาดว่าจะมีกำลังผลิตเกือบ 1 ล้านตัน
นอกจากนั้น บริษัท อินโดรามาเวนเจอร์ ที่ถือหุ้นประมาณ 65% ใน IRP อยู่ระหว่างการเจรจาเพื่อแลกหุ้นกับบริษัท Lasada ซึ่งเป็นผู้ผลิตเม็ดพลาสติกอันดับหนึ่งในทวีปยุโรป มีมาร์เก็ตแชร์ 30% และบริษัทมีมาร์เก็ตแชร์ประมาณ 20% ในตลาดยุโรป หากแลกหุ้นสำเร็จจะทำให้บริษัทครองตลาดอันดับ 1 ในยุโรป โดยมีมาร์เก็ตแชร์ถึง 50%
แต่อย่างไรก็ตาม เนื่องจากเข้าข่ายการผูกขาดจึงจำเป็นต้องขออนุมัติจากทางสหภาพยุโรป(อียู) ซึ่งคงต้องใช้เวลานานในการตกลง หากรวมกันได้จะส่งผลดีต่อ IRP ในการทำตลาดยุโรป
--อินโฟเควสท์ โดย สารภี สายะเวส/รัชดา/ศศิธร โทร.0-2253-5050 ต่อ 345 อีเมล์: sasithorn@infoquest.co.th--