ตลาด mai เผย Q2/51 บจ.มีกำไรสุทธิ 728 ลบ.เพิ่มขึ้น 58% จากงวด Q2/50

ข่าวหุ้น-การเงิน Wednesday August 20, 2008 10:27 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

          นายชนิตร ชาญชัยณรงค์ ผู้จัดการ ตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ (mai) เปิดเผยถึงผลการดำเนินงานบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ (mai) ประจำไตรมาส 2/2551 สิ้นสุด ณ วันที่ 30 มิถุนายน 2551 ว่า บริษัทจดทะเบียนจำนวน 48 แห่ง มีกำไรสุทธิ รวมแล้วทั้งสิ้น 728 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 58 เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อน กำไรสุทธิรวมอยู่ที่ 460 ล้านบาท 
มีบริษัทจดทะเบียน 11 แห่งที่มีอัตราเติบโตของกำไรสุทธิ เกินร้อยละ 100 คือ บมจ. ไทยฮา (KASET) ที่พลิกจากขาดทุน 5 ล้านบาท เป็นกำไร 62 ล้านบาท คิดเป็นอัตราเติบโตของกำไรสุทธิร้อยละ 1,246 บมจ. ซีพีอาร์ โกมุ อินดัสเตรียล (CPR) ร้อยละ 474 บมจ. ชูโอ เซ็นโก(ประเทศไทย) (CHUO) ร้อยละ 455 บมจ.แอล.วี เทคโนโลยี (LVT) ร้อยละ 354 บมจ. สตีล อินเตอร์เทค
(STEEL)ร้อยละ 343 บมจ. ไพลอน (PYLON) ร้อยละ 324 บมจ. ปิโก (ไทยแลนด์) (PICO) ร้อยละ 159 บมจ.โกลด์ไฟน์แมนูแฟคเจอเรอส์ (GFM) ร้อยละ 117 บมจ. ทาพาโก้ (TAPAC) ร้อยละ 114 บมจ. ยัวซ่าแบตเตอรี่ ประเทศไทย (YUASA) ร้อยละ 107 และ บมจ. เด็มโก้(DEMCO) ร้อยละ 101 ตามลำดับ
ขณะที่ มีรายได้รวมกัน 11,809 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากงวดเดียวกันของปีก่อนที่มียอดขาย 10,853 ล้านบาทคิดเป็นร้อยละ 9
ด้านผลการดำเนินงานประจำงวด 6 เดือนแรกปี 2551 เปรียบเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อน บริษัทใน mai มีรายได้รวม 22,503 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจาก 20,297 ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 11 โดยมีกำไรสุทธิรวม 1,495 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจาก 879 ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 70 ส่วนบริษัทจดทะเบียนที่มีกำไรสุทธิ สูงสุด 3 อันดับแรก คือ บมจ.ยูนิค ไมนิ่งเซอร์วิสเซส (UMS) กำไรสุทธิ 240 ล้านบาท บมจ. โกลด์ไฟน์ แมนูแฟคเจอเรอส์ (GFM) กำไรสุทธิ 164 ล้านบาทและ บมจ.เด็มโก้ (DEMCO) กำไรสุทธิ 159 ล้านบาท
"ท่ามกลางสภาวะเศรษฐกิจและการเมืองที่ไม่แน่นอน บริษัทจดทะเบียนใน mai ส่วนใหญ่มีกำไรเพิ่มร้อยละ 70 สะท้อนถึงศักยภาพของบริษัทขนาดกลางและเล็กในการปรับตัว โดยจะเห็นได้ว่าบริษัทหลายบริษัทประสบปัญหาขาดทุนในปีที่แล้ว แต่สามารถปรับตัวพลิกเป็นกำไรสุทธิได้ในปีนี้ อย่างไรก็ดี บริษัทที่ยังคงประสบปัญหาส่วนใหญ่อยู่ในภาคธุรกิจ สื่อและบริการ ตลอดจนธุรกิจเทคโนโลยีและการสื่อสารที่ยังคงพึ่งพิงรายได้จากภาครัฐเป็นหลัก" นายชนิตร กล้าว

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ