RASA เล็งทบทวนเป้ารายได้ปีนี้ปลาย Q3/51 แต่ยอดพรีเซลล์ยังคาดแตะพันลบ.

ข่าวหุ้น-การเงิน Wednesday August 20, 2008 11:00 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

          บมจ.รสาพร๊อพเพอร์ตี้(RASA)เล็งทบทวนเป้ารายได้ในช่วงสิ้น Q3/51 หลังคาดรายได้ปี 51 อาจโตไม่ถึง 10% ตามเป้าหมาย แต่ยังมั่นใจยอด Presale ยังเติบโตได้ในระดับ 1 พันล้านบาท มองตลาดคอนโดฯ ยังมีอัตราเติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะในยุคราคาน้ำมันยังพุ่งสูงแบบนี้ 
ส่วนเรื่องหุ้นขาดสภาพคล่องซื้อขายวันละ 2-3 แสนบาท ไม่กังวลราคาหุ้นขอปล่อยให้เป็นไปตามกลไกตลาด มั่นใจเมื่อไหร่ผลการดำเนินงานดีขึ้นทั้งรายได้และกำไร นักลงทุนจะมองเห็นโอกาสในการเข้าลงทุนเอง และยืนยันไม่มีแผนซื้อหุ้นคืนอย่างที่หลายบริษัทนิยมทำอยู่ในตอนนี้
นายเลิศมงคล วราเวณุชย์ กรรมการ RASA เปิดเผยว่า บริษัทมีแผนจะปรับเป้ารายได้ปี 51 ในช่วงสิ้นไตรมาสที่ 3/51 หลังมีแนวโน้มว่ารายได้ปี 51 ที่บริษัทคาดว่าจะเติบโต 10% จากปีก่อนที่มีรายได้ 479.23 ล้านบาทนั้น อาจเป็นไปไม่ได้แล้ว
"ในแง่รายได้เรากำลังทบทวนอยู่ว่าจะเป็นไปได้อย่างที่คาดหรือไม่ คิดว่าคงโตไม่ถึง 10% กำลังปรับอยู่สิ้นไตรมาส 3 นี้คงจะบอกได้ แต่ในแง่ยอดขายใหม่ (Presale) ปี 51 เรากำหนดไว้ประมาณ 1 พันล้านบาทจากปี 50 ที่มียอด Presale ที่ 600 ล้านบาท เนื่องจากเราเปิดโครงการใหม่ 3 พันล้านบาท และเท่าที่ดูตอนนี้ยอดขายค่อนข้างดี เพราะฉะนั้นตัวเลขยอด Presale น่าจะใกล้เคียงกับที่เรากำหนดไว้"นายเลิศมงคล กล่าวกับ"อินโฟเควสท์"
ขณะที่อัตรากำไรขั้นต้น(Gross Profit Margin)ในช่วงไตรมาส 2 ปี 51 อยู่ที่ 27% ซึ่งเพิ่มขึ้นจาก 21% ในช่วงไตรมาส 2 ของปี 50 และเชื่อว่าทั้งปี 51 และต่อๆ ไปจะพยายามทำให้ได้ในระดับ 25-30%
*ยอมรับงบ Q2/51 ไม่สวยเหตุยังไม่รับรู้รายได้โครงการใหม่
สำหรับผลการดำเนินงานไตรมาส 2/51 ที่มีผลขาดทุน 5.67 แสนบาทนั้น สาเหตุมาจากคอนโดฯที่เปิดขายในปีนี้มูลค่า 700 ล้านบาทยังไม่ได้รับรู้รายได้เข้ามาในไตรมาสนี้
"เรามีคอนโดฯ ในมือ 3 พันล้านบาท แต่คอนโดฯ ที่เราขายปีนี้ 700 ล้านบาทยังไม่ได้รับรู้รายได้ เพราะเพิ่งเริ่มสร้างเริ่มขาย ตามปกติคอนโดฯเวลารับรู้รายได้ต้องขายได้อย่างน้อย 40% ต้องเก็บดาวน์ไม่น้อยกว่า 20% ต้องก่อสร้างไปไม่น้อยกว่าร้อยละ 10 แต่เราเชื่อว่าจะไปรับรู้ในช่วงไตรมาส 4 ขณะที่ค่าการตลาดต่างๆ เราต้องบันทึกเป็นค่าใช้จ่าย เลยทำให้ตัวเลขไตรมาส 2/51 ออกมาไม่ดีเท่าไหร่"นายเลิศมงคล กล่าว
ปีนี้ RASA เปิด 3 โครงการ เป็นคอนโดฯ 2 โครงการ คือ ที่สาทร และประดิพัทธ์ โครงการละ 1,500 ล้านบาท มูลค่ารวม 3 พันล้านบาท ส่วนบ้านเดี่ยว 1 โครงการที่วัชรพล มูลค่า 650 ล้านบาท ขณะที่สัดส่วนรายได้ของบริษัทกว่า 70-80% ยังเป็นรายได้จากบ้านเดี่ยว ขณะที่คอนโดฯ ทำรายได้ให้บริษัทราว 20-30%
"อาจจะไปรับรู้รายได้โครงการใหม่ในตอนปลายปี คือตั้งแต่ปลายปีนี้เป็นต้นไปบริษัทจะรับรู้รายได้จากคอนโดฯมากขึ้น"นายเลิศมงคล กล่าว
นายเลิศมงคล กล่าวถึงแผนปีหน้าว่า จะเน้นขายโครงการเดิมให้ยอดขายอยู่ในระดับที่น่าพอใจและสบายใจแล้วคาดว่า กลางปี 52 น่าจะเปิดคอนโดฯได้อีก 1 โครงการ มูลค่าประมาณ 500 ล้านบาทบวก/ลบ โดยยังเน้นคอนโดฯระดับกลางถึงระดับบน ราคาเฉลี่ย 60,000-90,000 บาทต่อตารางเมตร
กรรมการ RASA กล่าวว่า บริษัทไม่มีแผนจะหันมาทำคอนโดฯ ระดับกลางระดับราคา 35,000-45,000 บาทต่อตารางเมตร เนื่องจากต้องเปิดขายจำนวนมาก 1 โครงการต้องมี 500-600 ยูนิตขึ้นไปจึงจะได้ Economy of Scales ขณะที่บริษัทไม่มีความพร้อมและยังขาดความเข้าใจในตลาดนี้เพียงพอ อีกทั้งเราทำตลาด Niche ได้ค่อนข้างดีด้วย
*ไม่มีแผนซื้อหุ้นคืน
นายเลิศมงคล กล่าวยอมรับเรื่องราคาหุ้น RASA ไม่มีสภาพคล่อง และราคาหุ้นปรับลดลงตามภาวะตลาดรวม แต่บริษัทก็ไม่มีแนวทางแก้ไขหรือแก้ปัญหานี้ด้วยการซื้อหุ้นคืนเหมือนที่บริษัทอื่นๆ ทำกัน โดยจะปล่อยให้ราคาหุ้นเป็นไปตามธรรมชาติ เชื่อว่าเมื่อใดที่รายได้และกำไรที่ผู้ถือหุ้นเห็นชัดเจนราคาหุ้นก็จะดีขึ้นเอง
"เราคงปล่อยราคาหุ้น RASA เป็นไปตามกลไกตลาด เราคงไม่ทำอะไร เรายังไม่มีแผนซื้อหุ้นคืน"นายเลิศมงคล กล่าว
ล่าสุด เมื่อเวลา 10.58 น. ราคาหุ้น RASA อยู่ที่ 3.50 บาท ไม่มีการเปลี่ยนแปลง

แท็ก (RASA)   เซลล์  

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ