(เพิ่มเติม) Q-CON ศึกษาแผนตั้งรง.ใหม่ใน 2-3 ปีเน้นภาคใต้/ครึ่งปีหลังออกสินค้าใหม่-ตรึงราคา

          บมจ.ควอลิตี้ คอนสตรัคชั่น โปรดัคส์(Q-CON) เปิดเผยว่า บริษัทอยู่ระหว่างศึกษาแผนงานจัดตั้งโรงงานผลิตแห่งใหม่ในช่วง 2-3 ปีข้างหน้า เพื่อเพิ่มกำลังผลิตจากปัจจุบันที่มี 4 โรงงาน ผลิตได้ 12 ล่านตารางเมตร โดยให้ความสนใจเป็นพิเศษกับพื้นที่ภาคใต้ ซึ่งจะช่วยให้บริษัทลดต้นทุนค่าขนส่งลงได้ด้วย
          สำหรับผลประกอบการของบริษัทในปีนี้ยังเป็นไปตามความคาดหมาย โดยระดับการขาดทุนมีแนวโน้มลดลงอย่างต่อเนื่อง ซึ่งน่าจะทำให้ทั้งปีเป็นไปตามเป้าที่จะขาดทุนลดลงจากปีก่อนที่มีขาดทุนสุทธิ 108 ล้านบาท ซึ่งในช่วงครึ่งปีหลังบริษัทจะมีแผนจะออกผลิตภัณฑ์ใหม่มาวางตลาดที่เน้นการสร้างมาร์จิ้นให้สูงขึ้น และจะตรึงราคาจำหน่ายสินค้าต่อไป หลังจากราคาน้ำมันและวัตถุดิบปรับตัวลดลงมาแล้ว
          นายกิตติ สุนทรมโนกุล ผู้อำนวยการฝ่ายการขายและการตลาด Q-CON คาดว่า รายได้และกำไรในช่วงครึ่งปีหลังจะปรับตัวดีขึ้นเมื่อเทียบกับครึ่งแรกที่ผ่านมา และดีกว่าในไตรมาส 2/51 เนื่องจากการออกสินค้าใหม่ 2 ประเภท ได้แก่ เค้าท์เตอร์มวลเบาสำเร็จรูป ซึ่งเป็นอิฐมวลเบาเสริมเหล็ก เป็นสินค้าพิเศษที่ผู้ประกอบการรายอื่นยังไม่สามารถทำได้ และอีก 1 ผลิตภัณฑ์ที่จะออกในช่วงปลายไตรมาส 3-4/51 ซึ่งมีมาร์จิ้นกว่า 30% สูงกว่าปกติที่มาร์จิ้น 21-22%
          ประกอบกับ ปัจจุบันราคาน้ำมันได้ปรับลดลงมาแล้ว น่าจะทำให้ยอดขายของบริษัทปรับตัวดีขึ้น แต่อย่างไรก็ตามก็คงยังไม่สามารถทำให้เห็นกำไรแต่ก็คงทำให้ขาดทุนลดลงจากปีก่อนที่ขาดทุน 108 ล้านบาท
          “ช่วงที่พีคในไตรมาส 2 ที่ผ่านมาเหนื่อยสุดๆ เราเจอปัญหาหลายอย่างทั้งราคาน้ำมันที่ปรับเพิ่ม ปูนซีเมนต์ก็ปรับเพิ่มทำให้Cost เราเพิ่มมากโดยตั้งแต่ต้นปี Cost ปรับ 17-18% แม้เราจะทยอยปรับราคา 12-13 % แต่ก็ยังรองรับไม่ได้ และหากปรับขึ้นอีกก็ไม่ดีจะขายลำบาก ดังนั้นวิธีที่จะช่วยได้คือการที่เราออกสินค้าที่มีมาร์จิ้นสูงจะช่วยยอดขายได้แม้วอลลุ่มจะไม่เพิ่ม รวมทั้งการติดตั้งท่อก๊าซ NGV ในนิคมฯ บางปะอินจะเสร็จในช่วงเดือนต.ค จากเดิมที่เราใช้น้ำมันเตาก็จะช่วยได้อีกทาง“ นายกิตติกล่าว
          นายกิตติ คาดว่า บริษัทจะมียอดขายจากสินค้าที่ออกใหม่ 2 ประเภทประมาณ 15-20% ของยอดขายทั้งหมด ซึ่งตอนนี้อยู่ระหว่างเจรจาในการส่งสินค้าหลายราย เช่น บุญถาวร  โฮมโปร และโครงการแสนสิริ ฯลฯ ขณะเดียวกันในส่วนการเพิ่มตัวแทนจำหน่ายที่ 400 แห่งภายในปีนี้ไม่น่ายาก เพราะปัจจุบันมีแล้ว 350 แห่ง
          สำหรับราคาขายในครึ่งปีหลังคงจะตรึงราคาไว้ที่ประมาณ 145-155 บาท/ตร.ม. หลังจากที่ได้ปรับขึ้นราคามาแล้ว และขณะนี้แนวโน้มราคาน้ำมันก็ได้ปรับลดลงแล้ว ขณะเดียวกันในส่วนต่างประเทศบริษัทจะส่งออกมากขึ้นโดยเฉพาะเวียดนามและสิงค์โปร์ เนื่องจากความต้องการยังมีอยู่มากจากการขยายตัวการก่อสร้าง โดยตั้งเป้าที่จะมีสัดส่วนส่งออกเพิ่มเป็น 7% ในปีนี้จาก 1%