NVL ปรับลดเป้าปี 51 รายได้โต 20% กำไรโตกว่า 20% รับการเมืองถ่วงธุรกิจ

          บมจ.นวลิสซิ่ง(NVL) ปรับเป้ารายได้ปี 51 ขยายตัว 20% จากเดิมตั้งเป้าโต 100% จากปีก่อนที่มีรายได้รวม 306.85 ล้านบาท และชะลอเปิดธุรกิจใหม่ หลังเผชิญปัญหาการเมืองเป็นปัจจัยถ่วง ส่วนกำไรสุทธิคาดจะยังเติบโตมากกว่า 20% จาก 15.28 ล้านบาทในปีก่อน จากผลที่บริษัทคุมต้นทุนการบริหารงาน การบริหารสินทรัพย์ และเพิ่มผลตอบแทนธุรกิจสินเชื่อได้ถึง 17-19% แต่ครึ่งปีหลังยังมั่นใจธุรกิจยังเดินหน้าต่อไปได้และขยายตัวแทนเครือข่าย"นวเอ็กซ์เพรส"ได้เกิน 300 แห่งในไตรมาส 3 
          ทั้งปีคาดคุมหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้(NPL)ไว้ที่ 3% สูงกว่าประมาณการเดิมที่ตั้งไว้ต่ำกว่า 2% ล่าสุดสิ้น มิ.ย.51 อยู่ที่ 3.2% และมั่นใจพอร์ตสินเชื่อขยายได้ตามเป้าหมาย 4 พันล้านบาท เพิ่มจากปีก่อนที่มี 2.5 พันล้านบาท โดยคาดว่าไตรมาส 4/51 จะเสนอขายหุ้นกู้ราว 1 พันล้านบาทให้กับกองทุนต่างประเทศ 2 รายเพื่อใช้เป็นทุนขยายพอร์ตสินเชื่อ แต่หากการเมืองรุนแรงกว่านี้ก็คงต้องทบทวนแผนงานใหม่อีกรอบ
*ทบทวนเป้าธุรกิจปีนี้แตะเบรกรับสถานการณ์ในประเทศยังไม่ชัด
          นายรัตนชัย นันทปราโมทย์ กรรมการผู้จัดการ NVL กล่าวว่า จากสภาพปัญหาการเมืองที่ยืดเยื้อตั้งแต่หลังเลือกตั้งปลายปี 50 และตึงเครียดมากขึ้นเรื่อย ๆ ทำให้การดำเนินงานบริษัทต้องเป็นไปอย่างระมัดระวังจะเห็นว่ายอด NPL ขึ้นเร็วมาก ในช่วง 3 เดือนที่ผ่านมา ทำให้ NPL ปรับขึ้นมาเป็น 3.2% ณ สิ้นไตรมาส 2/51 จาก 2.75% สิ้นไตรมาส 1/51 เนื่องจากสถานการณ์เปลี่ยนไปจากที่บริษัทคาดไว้ 
          แต่อย่างไรก็ตาม จากที่บริษัทได้วางแผนการดำเนินการอย่างระมัดระวัง ทำให้ NPL ต่ำกว่าไตรมาส 2/50 ที่อยู่ในระดับ 5.50% และยังต่ำกว่าระบบที่มี NPL ในระดับ 7-8% 
          "คือตอนนี้ทุกคนระมัดระวัง ชะลอตัวกัน ไม่รู้ว่าทิศทางการเมืองจะไปยังไง ฉะนั้น การที่เราจะเร่งหรือดำเนินการตาม
แผนผมคิดว่าเป็นการไม่ถูกต้อง วิธีการก็คือต้องกลับมาทบทวนต้นทุนในการบริหารงานว่าเหมาะสมกับในพอร์ตที่เรามีอยู่หรือเปล่า ทำให้ต้นทุนในเรื่อง operation หรือ NPL ได้ถูกทบทวนกลับมาและดีขึ้น ก็ทำให้ผลประกอบการในไตรมาส 2 ดีขึ้น"นายรัตนชัย กล่าวกับ"อินโฟเควสท์" 
          อย่างไรก็ตาม ในช่วง 2 ไตรมาสที่ผ่านมายังไม่มีปัจจัยบวกจากรอบด้านเข้ามาเลย คือทุกอย่างดีหมด ยกเว้นบรรยากกาศการเมืองที่ยังมีความล่อแหลมที่จะเกิดปะทุขึ้นมาได้ 
          นายรัตนชัย คาดว่า ในปี 51 รายได้โต 20% จากปีก่อน ขณะที่กำไรสุทธิจะโตมากกว่า 20% เพราะผลตอบแทน(yield)มีมากกว่า 20% มาจากการปล่อยสินเชื่อรับจำนำทะเบียนรถได้เดือนละ 100 ล้านบาท เป็นไปตามเป้าหมายในช่วงครึ่งปีแรกและเชื่อว่าในครึ่งปีหลังยังทำได้ดี เนื่องจากขณะนี้บริษัทได้ขยายตัวแทน"นวเอ็กซ์เพรส"แล้ว 268 แห่งและคาดว่ามีตัวแทนทะลุ 300 แห่งภายในไตรมาส 3/51 ซึ่งเกินกว่าที่ตั้งเป้าไว้ว่าสิ้นปีจะมีตัวแทน 300 แห่งส่วนใหญ่เป็นการขยายไปในต่างจังหวัด 
          "ผมว่าอุณหภูมิการเมืองเป็นอย่างนี้ ได้แค่นี้ก็ดีแล้ว คิดว่าปีนี้เป็นไปตามเป้าหมาย จริงๆผมคั้งใจให้ดีกว่าเป้าหมาย แต่
ครึ่งปีแรกนี้พอใจมาก"นายรัตนชัย กล่าว 
          ก่อนหน้านี้ NVL คาดการณ์ว่า ผลประกอบการในปีนี้ทั้งรายได้และกำไรสุทธิคาดว่าจะเพิ่มเป็นเท่าตัวในทิศทางเดียวกับพอร์ตสินเชื่อ
          ขณะเดียวกัน ในปีนี้บริษัทได้ชะลอธุรกิจใหม่ที่จะรับจำนำสินทรัพย์อื่น เช่น ทองคำ หรือ เพชร แม้ว่าจะได้จัดตั้งบริษัท นวจามิกร จำกัด รองรับไว้แล้วเมื่อพ.ค.ที่ผ่านมา แต่เมื่อเห็นว่าสถานการณ์ต่างๆไม่ดีทำให้บริษัทตัดสินใจชะลอออกไปก่อน และมุ่งเน้นธุรกิจสินเชื่อรับจำนำทะเบียนรถเป็นหลัก และคาดว่าจะสามารถเพิ่มพอร์ตสินเชื่ออีก 1.5 พันล้านบาท เป็น 4 พันล้านบาท จากสิ้นปีก่อนอยู่ที่ 2.5 พันล้านบาท
*คาดออกหุ้นกู้ 1 พันล้านบาทใน Q4/51
          นายรัตนชัย กล่าวว่า ขณะนี้บริษัทอยู่ระหว่างโรดโชว์การเสนอขายหุ้นกู้ให้กับกองทุนต่างประเทศ 4-5 ราย และคาดว่าจะสามารถเสนอขายหุ้นกู้ประมาณ 1 พันล้านบาทได้ในช่วงไตรมาส 4/51 ให้กับกองทุนต่างประเทศ 2 ราย แต่ต้องรอดูปัจจัยการเมือง และผลประกอบการของบริษัทในไตรมาส 3/51 
          คณะกรรมการบริษัทได้อนุมัติให้บริษัทออกและเสนอขายหุ้นกู้จำนวน 2 พันล้านบาท อายุไม่เกิน 10 ปี 
          "เรามีเลือกไว้ 2 รายเป็นกองทุนต่างประเทศ แต่ก็ขอจะพิจารณาผลประกอบการไตรมาส 3 ก่อน และดูการเมืองด้วย รอบแรกจะขายปีนี้คาดว่าอย่างน้อยจะออก 1 พันล้านบาท หรือครึ่งหนึ่งเอามาใช้ขยายพอร์ตของเรา เพราะธุรกิจรับจำนำทะเบียนรถได้รับการตอบรับอย่างดี"นายรัตนชัย กล่าว 
          ทั้งนี้ บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด ยืนยันผลทบทวนอันดับเครดิตองค์กรของบมจ.นวลิสซิ่ง(NVL)ที่ระดับ“BBB-"ด้วยแนวโน้ม“Negative"หรือ“ลบ"ซึ่งเป็นอันดับเครดิตสะท้อนถึงต้นทุนทางการเงินเฉลี่ยที่สูงของบริษัทเมื่อเทียบกับคู่แข่งและความเสี่ยงด้านเครดิตที่เพิ่มขึ้นจากสินเชื่อใหม่ที่มีความเสี่ยงแต่ให้ผลตอบแทนสูง คือ สินเชื่อสำหรับเจ้าของรถยนต์ซึ่งเป็นรูปแบบหนึ่งของสินเชื่อบุคคลที่มีหลักประกัน