(เพิ่มเติม) SCCC คาดปี 51 รายได้ยังโตแม้ปริมาณลด ด้านกำไรรับผลกระทบต้นทุนพลังงาน

ข่าวหุ้น-การเงิน Thursday August 21, 2008 14:23 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

          บมจ.ปูนซีเมนต์นครหลวง(SCCC)คาดปี 51 รายได้ของบริษัทจะเติบโตกว่าปีก่อนที่มีรายได้ 2.3 หมื่นล้านบาท แม้ปริมาณขายจะลดลง เนื่องจากราคาขายปลีกสูงขึ้น และบริษัทยังกำลังรอกระทรวงพาณิชย์อนุมัติขึ้นราคาขายปูนซิเมนต์ตามที่ต้นทุนที่ปรับเพิ่มขึ้น 5-10% ขณะที่กำไรยังได้รับผลกระทบจากต้นทุนพลังงานที่เพิ่มสูงขึ้นมาก
ในปีนี้บริษัทคาดว่าจะส่งออกปูนซิเมนต์ลดลงเหลือ 3 ล้านตันจากปีก่อนส่งออก 6 ล้านตัน เนื่องจากค่าเงินบาทผันผวน ส่วนความต้องการปูนซิเมนต์ในประเทศน่าจะมีปริมาณลดลง 5% จากปีก่อนที่ 27.7 ล้านตัน
นายสถาพร เพชรทองคำ เลขานุการและธุรกิจสัมพันธ์ SCCC กล่าวว่า ในปีนี้บริษัทยังคาดหวังรายได้ปีนี้เติบโตกว่า หรือใกล้เคียงจากปีก่อน เนื่องจากราคาขายปูนภายในประเทศปรับเพิ่มสูงขึ้นมากเมื่อเทียบกับปีก่อน มาอยู่ 2,000 บาท/ตัน จากปีก่อน 1,600-1,700 บาท/ตัน
"รายได้เรายังหวังว่าจะเติบโตจากปีก่อน แต่กำไรไม่ต้องพูดถึง เพราะราคาถ่านหินเพิ่มขึ้นจากระดับ 50 เหรียญต่อตัน มาอยู่ที่ 120 เหรียญต่อตัน ทำให้มีผลกระทบต้นทุนการผลิตอย่างสูง และจำเป็นต้องลดการผลิตไป 2 เตาเพื่อลดต้นทุน แต่บริษัทแม่(โฮซิม)มีฐานการผลิตในหลายประเทศ ทำให้ได้ราคาถ่านหินถูกกว่าที่อื่น"นายสถาพร กล่าว
ในปีนี้คาดว่าบริษัทจะมียอดขายในประเทศลดลง 3-4% จากปีก่อน และบริษัทมีการลดการส่งออกลงจากปีก่อนที่ส่งออก 6 ล้านตัน เหลือ 3 ล้านตันหรือลดลง 50% เนื่องจากความผันผวนของอัตราแลกเปลี่ยน ทำให้การส่งออกไม่คุ้มค่า ประกอบกับราคาขายในต่างประเทศถือว่าอยู่ในระดับที่ไม่ดีนัก แม้ราคาจะปรับเพิ่มขึ้นเป็น 45-50 เหรียญ/ตัน แต่ไม่ครอบคลุมกับต้นทุนที่เพิ่มขึ้น
อย่างไรก็ตาม นายสถาพร กล่าวว่า บริษัทอยู่ระหว่างขอขึ้นราคาปูนซิเมนต์กับกรมการค้าภายในตามต้นทุนที่ปรับขึ้นประมาณ 5-10% จากปัจจัยราคาถ่านหินที่ปรับเพิ่มสูงขึ้น ประกอบกับ ปริมาณการผลิตลดลง ทำให้ต้นทุนการผลิตต่อหน่วยเพิ่มขึ้นจากการลดกำลังการผลิต โดยบริษัทได้ปิดโรงงานผลิต 2 หน่วย รวมกำลังการผลิต 2.2 ล้านตัน ทำให้กำลังการผลิตเหลือ 15-16 ล้านตัน จากปีก่อนที่ผลิต 18.2 ล้านตัน
แต่อย่างไรก็ตาม การชะลอตัวของอสังหาริมทรัพย์และการชะลอตัวของการก่อสร้างโครงการขนาดใหญ่ของภาครัฐ คาดว่าทำให้ความต้องการใช้ปูนภายในประเทศหดตัว 5% จากปีก่อนที่มีปริมาณใช้ปูนฯ 27.7 ล้านตัน
ทั้งนี้ ปี 50 บริษัทมีกำไรสุทธิ 3,230 ล้านบาท ลดลงจากปี 49 ที่มีกำไรสุทธิ 3,914 ล้านบาท และในไตรมาส 1/51 มีกำไรสุทธิ 1,014 ล้านบาท ลดลงจากไตรมาส 1/50 ที่มีกำไรสุทธิ 1,140 ล่านบาท

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ