บมจ.อีเทอร์นิตี้ แกรนด์ โลจิสติคส์(ETG)คาดว่าปีนี้บริษัทจะมียอดขาย 1,250-1,300 ล้านบาท เนื่องจากได้ลูกค้าเพิ่มเข้ามา 2 ราย อีกทั้งได้รับผลดีจากราคาน้ำมันที่ปรับลดลง แต่ในส่วนของกำไรทั้งปีคงจะรักษาในระดับใกล้เคียงปีก่อน ถึงแม้ในช่วงไตรมาส 3/51 จะมีกำไรจากราคาน้ำมันเข้ามา ทำให้ภาพรวมเติบโต 20% เมื่อเทียบกับไตรมาส 2/51 ก็ตาม
สำหรับเผนขายเพิ่มทุน 25 ล้านหุ้นให้นักลงทุนเฉพาะเจาะจง(PP)คาดว่าในเดือนก.ย.นี้จะเห็นการทำ Due Diligence กับพันธมิตรญี่ปุ่น 1 ราย ซึ่งจะส่งตัวแทนมาเป็นกรรมการ 1 ราย โดยจะเน้นการพัฒนาด้านการตลาดและดึงลูกค้าญี่ปุ่นเข้ามามากขึ้น โดยเงินจากการขายหุ้นเพิ่มทุนจะใช้ชำระหนี้จากการซื้อหุ้น บริษัท แพรนดส์ กรุ๊ป โลจิติกส์ จำกัด(PANDS) และคาดว่าจะเห็นความร่วมมือกันในการขนส่งสินแร่ในกลางปี 52 ในประเทศลาว
ทั้งนี้ ในไตรมาส 3/51 คาดว่า ETG จะมีกำไรจากส่วนต่างราคาน้ำมันจากที่ไตรมาส 2/51 บริษัทเรียกเก็บในอัตราที่สูง โดยเฉพาะลูกค้ารายใหญ่ เนื่องจากปัจจุบันราคาน้ำมันปรับลดลงทำให้มีส่วนต่างประมาณ 5%
"ในไตรมาส 3 นี้ กำไรเราจะเติบโตจากไตรมาส 2 ที่เราถือว่าเป็นช่วงที่เหนื่อยมากกับราคาน้ำมันที่ปรับตัวเพิ่มขึ้น แต่พอมาไตรมาส 3 กลับเป็นผลดีที่เราโค้ทราคาน้ำมันกับลูกค้าไว้สูง แต่ตอนนี้ราคาน้ำมันลงทำให้เราได้ส่วนต่างมาก" นายพูนศักดิ์ เธียไพรัตน์ กรรมการผู้จัดการ ETG กล่าวว
ขณะนี้ บริษัทมีลูกค้ารายใหม่เพิ่มเข้ามาใหม่ 2 ราย ช่วยส่งผลให้ยอดขายปีนี้เพิ่มสูงขึ้น และจากการที่บริษัทปรับกลยุทธ์ การประกันความเสี่ยงทั้งรูปแบบการซื้อขายของลูกค้ารายใหม่ และการติดตั้งถังก๊าซเอ็นจีวีในรถบรรทุกที่ให้บริการลูกค้า โดยขณะนี้เพิ่มเป็น 40 คันแล้ว จากรถบรรทุกทั้งหมดที่มี 400 คัน และคาดว่าสิ้นปีนี้จะติดตั้งได้ครบ 100 คัน ซึ่งจะทำให้ช่วยลดต้นทุนในการขนส่งได้ดีขึ้น
ประกอบกับ ในช่วงไตรมาส 4/51 จะเป็นช่วงที่มีงานขนส่งมากที่สุดก็จะทำให้ผลประกอบการดีขึ้น จากก่อนหน้านี้ที่บริษัทกังวลราคาน้ำมันที่ปรับตัวสูงจะกระทบผลประกอบการ
--อินโฟเควสท์ โดย จริญยา ดำสมาน/รัชดา/ศศิธร โทร.0-2253-5050 ต่อ 345 อีเมล์: sasithorn@infoquest.co.th--