ตลาดหุ้นไทยภาคบ่ายปรับตัวลงกว่า 10 จุดตามตลาดหุ้นอื่นในภูมิภาคจากแรงกดดันจากตลาดหุ้นนิวยอร์กที่ร่วงลงหลังจากเจพีมอร์แกน เปิดเผยตัวเลขขาดทุน รวมทั้งเศรษฐกิจญี่ปุ่นที่ชะลอตัว ทำให้เกิดแรงเทขายในกลุ่มนักลงทุนต่างชาติ โดยในตลาดหุ้นไทยมีแรงขายหุ้นหลัก พลังงาน และธนาคาร ขณะที่ประเด็นทางการเมืองยังรอความชัดเจนหลายๆ เรื่อง รวมทั้งจากผลที่คาดว่าธนาคารแห่งประเทศอาจยังคงดำเนินนโยบายการเงินตึงตัวต่อไป ทำให้เกิดความกังวลในประเด็นอัตราดอกเบี้ย
เมื่อเวลา 15.42 น. ดัชนีอยู่ที่ 679.83 จุด ลดลง 10.22 จุด (-1.48%)
นายกวี ชูกิจเกษม ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ บล.กสิกรไทย กล่าวว่า ตลาดหุ้นบ่ายนี้ปรับลงจากปัจจัยหลายเรื่อง เรื่องหนึ่งจากการที่ ธนาคารแห่งประเทศไทย(ธปท.) ออกมาพูดว่าจะยังคงนโยบายตึงตัวในการแก้ไขปัญหาเงินเฟ้อ ซึ่งก่อนหน้านี้เคยบอกว่าผ่อนคลายนโยบายด้านการเงิน แต่วันนี้ออกมาพูดว่าจะยังคงนโยบายการเงินตึงตัว ก็อาจจะทำให้คนกังวลเรื่องทิศทางอัตราดอกเบี้ยว่าอาจจะขึ้นได้มากกว่าที่เคยคิดไว้ตลาดหุ้นจึง react และตัวเลขดุลการค้าของเราติดลบเยอะก็อาจจะกดดันค่าเงินบาท
ประกอบกับตลาดหุ้นต่างประเทศปรับลงทั้งหมด นักลงทุนต่างประเทศยังคงขายอยู่ เพราะต้องเอาเงินกลับประเทศ โดยเอาเงินกลับไปช่วยสถาบันการเงินของสหรัฐที่ประสบปัญหาอยู่ทุกวันนี้ ซึ่งอาจจะเป็นในเชิงของ fund flow มากกว่า fundamental
"เป็นเรื่องของ fund flow ที่ไหลออกเป็นสำคัญ " นายกวี กล่าว
ทั้งนี้ เมื่อเวลา 15.58 น.ดัชนีอยู่ที่ 678.08 จุด ลดลง 11.97 จุด (-1.73%)
--อินโฟเควสท์ โดย จำเนียร พรทวีทรัพย์/รัชดา โทร.0-2253-5050 ต่อ 317 อีเมล์: rachada@infoquest.co.th--