ภาวะตลาดหุ้นไทยปิดลบ 13.52 จุด ต่างชาติปรับพอร์ตทั่วโลก ขายแบงก์-อสังหาฯ-พลังงาน

          ตลาดหลักทรัพย์ปิดตลาดช่วงบ่ายวันนี้ที่ระดับ 676.53 จุด ลดลง 13.52 จุด(-1.96%) มูลค่าการซื้อขาย 10,782 ล้านบาท
          การซื้อขายหุ้นวันนี้ ช่วงเช้าดัชนีเคลื่อนกรอบแคบสลับบวกและลบ โดยขยับขึ้นแตะจุดสูงสุดของวันที่ระดับ 691.51 จุด  แต่ช่วงบ่ายเคลื่อนไหวอยู่ในแดนลบตลอดช่วงบ่าย โดยดัชนีจุดต่ำสุดของวันอยู่ที่ปิดตลาด คือ 676.53 จุด
           ส่วนหลักทรัพย์เปลี่ยนแปลงวันนี้ เพิ่มขึ้น 89 หลักทรัพย์ ลดลง 247 หลักทรัพย์ และไม่เปลี่ยนแปลง 88 หลักทรัพย์
          นายพิชัย เลิศสุพงศ์กิจ ผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายการตลาด บล.ธนชาต กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยบ่ายนี้ปรับลง เพราะมีแรงขายออกมาในกลุ่มธนาคารพาณิชย์เป็นกลุ่มที่ดึงตลาดลงโดยติดลบไปกว่า 2% และอสังหาฯติดลบ 2% เช่นกันทั้ง 2 กลุ่มนี้เป็นกลุ่มที่ขึ้นมาเยอะในช่วงก่อนหน้านี้ วันนี้ทิ้งลงมาคาดต่างชาติยังขายอยู่ต่อเนื่องจากวานนี้ส่วนหนึ่งเป็นการปรับพอร์ตทั่วโลกหลังจากที่ตลาดมีความกังวลเกี่ยวกับเรื่องสถาบันการเงินในสหรัฐอยู่  
          ขณะที่ผู้ลงทุนในประเทศชะลอการลงทุนรอความชัดเจนทางการเมืองทำให้มูลค่าการซื้อขายอยู่ในเกณฑ์ที่เบาบางต่อเนื่องจากช่วงต้นสัปดาห์ที่ผ่านมา ทิศทางพรุ่งนี้เนื่องจากเพิ่งจะหลุดตรง Support 685 จุดลงมาในระยะสั้นมีแนวโน้มอาจจะซึมลง แนวรับถัดไป 670 จุดต้นๆ 
          "วอลุ่มบางก็ไม่ค่อยมีนัยสะท้อนความกังวลทั้งเรื่องความไม่แน่นอนทางการเมืองในประเทศ การที่ต่างชาติปรับพอร์ตระดับโลกทำให้มีแรงขายในหุ้นบลูชิพโดยเฉพาะกลุ่มธนาคารออกมาและดึงตลาดโดยรวม" นายพิชัย กล่าว
          อย่างไรก็ตาม ตลาดไม่ได้เสียอาการอะไรมากนัก ขณะที่ตลาดภูมิภาคปรับลงตามจีนมากกว่า
          ส่วนหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 หลักทรัพย์ ได้แก่ 
          GSTEEL มูลค่าการซื้อขาย 1,091.36 ล้านบาท ปิดที่   1.18 บาท เพิ่มขึ้น 0.11 บาท
          PTT    มูลค่าการซื้อขาย   963.52 ล้านบาท ปิดที่ 258.00 บาท ลดลง 10.00 บาท
          BANPU  มูลค่าการซื้อขาย   743.97 ล้านบาท ปิดที่ 394.00 บาท ลดลง  2.00 บาท
          KBANK  มูลค่าการซื้อขาย   682.96 ล้านบาท ปิดที่  67.50 บาท ลดลง  2.50 บาท
          PTTEP  มูลค่าการซื้อขาย   602.77 ล้านบาท ปิดที่ 145.00 บาท ลดลง  3.00 บาท