ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดลบเล็กน้อยเมื่อคืนนี้ (21 ส.ค.) เนื่องจากนักลงทุนเทขายหุ้นกลุ่มการเงิน อย่างไรก็ตาม ราคาน้ำมันดิบและราคาสินค้าโภคภัณฑ์ที่พุ่งสูงขึ้น ช่วยหนุนหุ้นกลุ่มเหมืองแร่และกลุ่มพลังงานดีดตัวขึ้น
สำนักข่าวธอมสัน ไฟแนนเชียลรายงานว่า ดัชนี FTSE 100 ปิดลบ 1.6 จุด หรือ 0.03% แตะที่ 5,370.2 จด หลังจากเคลื่อนตัวในช่วง 5,311.4-5,408.0 จุด
จิม วู๊ดสมิธ นักวิเคราะห์จากบริษัท วิลเลียม เดอ โบร์ กล่าวว่า ในช่วงเช้านั้นตลาดหุ้นลอนดอนร่วงลงอย่างหนักเนื่องจากแรงขายในกลุ่มการเงิน แต่ในช่วงบ่ายดัชนีดีดตัวขึ้นจากระดับต่ำสุดของวันได้หลังจากหุ้นกลุ่มพลังงานและกลุ่มเหมืองแร่ดีดตัวขึ้น
หุ้นธนาคารบาร์เคลย์ส์ ร่วงลง 0.5% หุ้นรอยัล แบงค์ ออฟ สก็อตแลนด์ดิ่งลง 2.1% หุ้นธนาคาร HSBC ร่วงลง 2.9% หุ้นธนาคาร HBOS ดิ่งลง 3% หุ้นธนาคารลอยด์ ทีเอสบี ทรุดตัวลง 3.4% และหุ้นธนาคารสแตนดาร์ด ชาร์เตอร์ด ร่วงลง 3.5%
ยอดค้าปลีกของอังกฤษเดือนก.ค.ขยายตัวสูงกว่าคาดการณ์ เนื่องจากกลุ่มผู้บริโภคหันไปซื้อสินค้าลดราคาแทนที่จะเข้าไปซื้อในห้างสรรพสินค้า รวมทั้งมีการซื้อโทรศัพท์มือถือกันมากขึ้น
สำนักงานสถิติแห่งชาติอังกฤษเปิดเผยว่า ยอดขายสินค้าในอังกฤษเพิ่มขึ้น 0.8% หลังจากร่วงลง 4.3% ในเดือนมิ.ย. ซึ่งถือเป็นการร่วงลงมากที่สุดนับตั้งแต่ปี 2539 สวนทางกับที่นักเศรษฐศาสตร์ที่บลูมเบิร์กสำรวจความคิดเห็นและคาดว่ายอดค้าปลีกเดือนก.ค.จะลดลง 0.2%
เมื่อเทียบเป็นรายปีแล้ว ยอดขายเพิ่มขึ้น 2.1% ซึ่งถือเป็นตัวเลขที่อ่อนตัวลงมากที่สุดนับตั้งแต่เดือนก.ค. 2549 นายเมอร์วิน คิง ผู้ว่าการธนาคารกลางอังกฤษ กล่าวเมื่อสัปดาห์ที่แล้วว่า เศรษฐกิจอังกฤษกำลังเผชิญกับสถานการณ์ที่ลำบากและการปรับเปลี่ยนที่ไม่พึงประสงค์ เนื่องจากราคาบ้านที่ตกลงและเงินเฟ้อที่สูงขึ้นจนทำให้รายได้ของผู้บริโภคหดลง
--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย รัตนา พงศ์ทวิช โทร.0-2253-5050 ต่อ 327 อีเมล์: ratana@infoquest.co.th--