GRAMMY โรดโชว์ 28 ส.ค.,มั่นใจกำไรปี51โตเกิน 50%พร้อมขายธุรกิจ non-core

          นายสิริชัย ตันติพงศ์อนันต์ รองกรรมการ ผู้อำนวยการ ฝ่ายบัญชีและการเงิน บมจ. จีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ (GRAMMY)  เปิดเผยว่า บริษัทมีแผนจะไปโรดโชว์ กับ บีเอ็นพี พาริบาส์ ที่ประเทศสิงคโปร์ ในวันที่ 28 ส.ค.นี้ โดยจะพบนักลงทุนสถาบันกว่า 10 แห่งที่ยังไม่เคยลงทุนในหุ้น GRAMMY โดยนักลงทุนจะขอพบได้แก่นักลงทุนจากสิงคโปร์ ฮ่องกง และยุโรป ซึ่งเชื่อว่านักลงทุนเหล่านี้ต้องการคำอธิบายเกี่ยวกับข้อมูลบริษัท หลังบริษัทมีแผนซื้อ บมจ.จีเอ็มเอ็ม มีเดีย (GMMM) และออกจากการเป็นบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ 
          นอกจากนี้ จะอธิบายถึงทิศทางการดำเนินธุรกิจเอ็นเตอร์เทนเม้นท์ ในฐานะผู้นำตลาด และความเสี่ยงด้านลิขสิทธ์ รวมถึงการเมืองของประเทศไทย 
          "เราคาดหวังว่า จะมีสถาบันใหม่เๆเข้ามาถือหุ้น และสถาบันเดิมยอมปล่อยหุ้นออกมา ทำให้เกิดการซื้อขาย เพราะที่ผ่านมาหุ้นของบริษัทไม่ค่อยมีความเคลื่อนไหว ราคาปัจจุบันมี พี/อี แค่ 11 เท่า เทียบกับพี/อี กลุ่มบันเทิงที่สูงถึง 18-19 เท่า ราคาหุ้นเราต่ำมาก ควรจะอยู่สัก 15 เท่า จึงจะสอดคล้องกับปัจจัยพื้นฐาน" นายสิริชัย กล่าว 
          สำหรับกำไรสุทธิในปี 51 นายสิริชัยเชื่อว่า ในปี 51 กำไรสุทธิจะเติบโตไม่ต่ำกว่า 50% ตามที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ เนื่องจากครึ่งปีแรก บริษัทมีกำไรสุทธิ 313 ล้านบาท สูงกว่างวดเดียวกันของปีก่อนถึง 76%  หรือมีกำไรสุทธิ 178 ล่านบาท 
          พร้อมย้ำว่า บริษัทจะทำการเพิกถอนหุ้น GMMM ออกจากตลาดหลักทรัพย์ภายในปี ไตรมาส 1/52  ซึ่งหลังการเพิกถอนหุ้นดังกล่าวจะทำให้ GMMM มีภาระภาษีเพิ่มขึ้นประมาณ 15 ล้านบาท เนื่องจาก GMMM ไม่ได้เป็นบริษัทจดทะเบียนจึงต้องจ่ายภาษีเพิ่มขึ้น 30% ทำให้แนวโน้มที่ GRAMMY จะได้รับกำไรน้อยลง 
          นอกจากนี้บริษัทมีแผนโอนธุรกิจที่ไม่ใช่ธุรกิจหลักไปอยู่ในบริษัท จีเอ็มเอ็ม โฮลดิ้ง จำกัด เพื่อจัดโครงสร้างทางธุรกิจ หรือขายออกไปให้กับผู้ที่สนใจและให้ราคาที่ดี เนื่องจากธุรกิจเหล่านี้ไม่เกี่ยวเนื่องกับธุรกิจหลัก และไม่สร่างกำไร รวมทั้งมีรายได้น้อยมากเมื่อเทียบกับธุรกิจหลัก โดยขณะนี้ยังมีอีกหลายบริษัทที่จะอยู่ระหว่างขั้นตอนดำเนินการ 
          โดยล่าสุดได้ขายหุ้นของบริษัทจีเอ็มเอ็ม ฟิตเนสคลับ จำกัด ถือสัดส่วน 51%  ของทุนที่ออกและชำระแล้ว ให้กับบริษัท  จีเอ็มเอ็ม โฮลดิ้ง จำกัด (GRAMMYถือหุ้น 100%) และ GMMM ขายหุ้นของบริษัท  เอ-ไทม์ ทราเวิลเลอร์ จำกัด ทำธุรกิจท่องเที่ยว ออกไปหมด 29%  ให้กับนายวรฤทธิ์ ไวยเจียรนัย