ภาวะตลาดหุ้นนิวยอร์กดาวโจนส์ปิดพุ่ง 197.85 จุด ขานรับคาดการณ์เงินเฟ้อ-น้ำมันร่วง

ข่าวหุ้น-การเงิน Saturday August 23, 2008 08:16 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

          ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดพุ่งสูงขึ้นเกือบ 200 จุดเมื่อคืนนี้ (22 ส.ค.) หลังจากที่ราคาน้ำมันอ่อนตัวลงและขานรับการออกมาแสดงความคิดเห็นของนายเบน เบอร์นานเก้ ประธานธนาคารกลางสหรัฐหรือเฟดที่ระบุว่า แรงกดดันด้านเงินเฟ้อของสหรัฐมีแนวโน้มว่าจะอยู่ในระดับปานกลาง 
ราคาน้ำมัน NYMEX ตกลง 6.59 ดอลลาร์ มาปิดที่ 114.59 ดอลลาร์ต่อบาร์เรลเมื่อคืนนี้ หลังจากที่พุ่งขึ้นกว่า 5 ดอลลาร์ต่อบาร์เรลเมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา
สำนักข่าวเอพีรายงานว่า ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดพุ่ง 197.85 จุด หรือ 1.73% แตะที่ 11,628.06 จุด ขณะที่ดัชนี S&P 500 ปิดบวก 14.48 จุด หรือ 1.13% แตะที่ 1,292.20 จุด แต่ดัชนี Nasdaq ปิดบวก 34.33 จุด หรือ 1.44% แตะที่ 2,414.71 จุด
นักลงทุนได้รับปัจจัยหนุนจากการคาดการณ์เรื่องเงินเฟ้อของประธานเฟดที่กล่าวในการประชุมเศรษฐกิจประจำปีที่แคนซัส ซิตี้ว่า แรงกดดันด้านเงินเฟ้อน่าจะอยู่ในระดับปานกลางปีนี้ ท่ามกลางการขยายตัวทางเศรษฐกิจที่ชะลอตัว แต่การคาดการณ์เรื่องเงินเฟ้อก็ยังคงมีความไม่แน่นอนสูง
นอกจากนี้ มีการคาดการณ์ว่า เลห์แมน บราเธอร์สอาจจะถูกขายกิจการซึ่งข่าวนี้ช่วยหนุนหุ้นกลุ่มไฟแนนซ์และตลาดโดยรวม มีรายงานเมื่อวานนี้ว่า โคเรีย เดเวลล็อปเมนท์ แบงค์กำลังพิจารณาเรื่องการซื้อหุ้นของเลห์แมน ส่งผลให้นักลงทุนเดินหน้าเข้าซื้อหุ้นเลห์แมน
หุ้นเลห์แมนพุ่ง 69 เซนต์ หรือ 5% แตะที่ 14.41 ดอลลาร์
จอห์น เมสซี ผู้จัดการการลงทุนของเอไอจี ซันอเมริกา แอสเส็ท เมเนจเมนท์ กล่าวว่า นักลงทุนขานรับการแสดงความเห็นเรื่องอัตราดอกเบี้ย และโอกาสที่จะมีอัศวินม้าขาวที่เข้ามาซื้อหุ้นของเลห์แมนทั้งหมดหรือส่วนหนึ่ง
อย่างไรก็ดี การที่วอร์เรน บัฟเฟตต์ มหาเศรษฐีได้ออกมากล่าวแสดงความคิดเห็นว่า เศรษฐกิจจะยังคงถดถอยต่อไปอีกสักระยะหนึ่งภายใต้คำจำกัดความของวอร์เรน และวิกฤตสินเชื่อจะยังคงเป็นปัจจัยที่ก่อให้เกิดปัญหาในภาคธุรกิจการเงินและเศรษฐกิจนั้น สกัดความหวังของนักลงทุนในตลาดที่ว่า แฟนนี เม และเฟรดดี แมค ซึ่งเป็นหน่วยงานที่รัฐบาลสหรัฐให้การสนับสนุน (GSE) และมีหน้าที่จัดหาสินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัยให้แก่ผู้ซื้อบ้าน
หากแฟนนี เม และเฟรดดี แมค ไม่ประสบความสำเร็จในการระดมทุนครั้งใหม่ ก็อาจทำให้รัฐบาลสหรัฐเพิ่มทุนด้วยตัวเอง ด้วยนำเงินของผู้เสียภาษีมาซื้อหุ้นทั้งหมดของแฟนนี เม และเฟรดดี แมค และรวบกิจการทั้งหมดมาเป็นของรัฐ ซึ่งการดำเนินการดังกล่าวอาจทำให้หนี้สินของสหรัฐเพิ่มขึ้นเป็น 2 เท่า
หุ้นแฟนนี เม บวก 15 เซนต์ แตะ 5 ดอลลาร์ ส่วนหุ้นเฟรดดี แมค ร่วง 35 เซนต์ หรือ 11% แตะ 2.81 ดอลลาร์

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ